วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ที่ วัดบ้านขะยูง อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นางสาวภูริกา สมหมาย ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1 นางสาววิลดา อินฉัตร สส.ศรีสะเกษ เขต 7 นายกิตติกร โล่สุนทร กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และน.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยมีพี่น้องประชาชนกว่า 1,000 คน ร่วมฟังการปราศรัยอย่างคึกคัก
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ตนได้รับเสียงสะท้อนว่า มี อสม.บางส่วน ไปช่วยผู้สมัครอีกพรรคหนึ่ง ซึ่งมีการไปช่วยจดชื่อ โดยตนก็ตอบกลับไปว่า จะเป็นไปได้หรือ เพราะวันนี้ รมว.สาธารณสุข ก็ลงพื้นที่มาแล้ว และในสัปดาห์หน้า คาดว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ก็จะเดินทางมาลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษด้วย เพื่อรณรงค์ให้ข้าราชการทุกระดับชั้น จัดการกับปัญหายาเสพติด เพราะตลอดการลงพื้นที่ ตนได้รับเสียงสะท้อนตลอดว่า ตามชุมชนยังมียาเสพติดอยู่ ซึ่งรมว.มหาดไทย คนใหม่ หลังรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.68 ก็ได้เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 17 ก.ค.68 ทันที เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด โดยได้นำผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ไปร่วมประชุม และได้สั่งคาดโทษว่า ถ้าพื้นที่ไหนมีคนขายยาเสพติด นายอำเภอ ผู้กำกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องรับผิดชอบ
“ภายหลังการประชุม วันที่ 19 ก.ค.68 ก็มีการนำร่องทันทีที่จังหวัดนครราชสีมา โดยมีการจับตรวจปัสสาวะราชการ ตั้งแต่รองผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปรากฎว่า มีปัสสาวะสีม่วงถึง 16 คน ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีการเริ่มดำเนินการแล้ว โดยเป็นนโยบายดั้งเดิมของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ซึ่งรัฐบาล พรรคเพื่อไทย ต้องการทำงานปราบปรามยาเสพติด แต่ในอดีตเราเป็นรัฐบาลผสม มีหลายพรรคการเมือง โดยพรรคลำดับที่ 2 ดูแลกระทรวงมหาดไทย แต่ไม่ได้ขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ จึงเป็นเหตุที่ปรับกระทรวงมหาดไทย มาอยู่กับพรรคเพื่อไทย และในส่วนของผม หลังปรับพรรคร่วมออกจากรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข ก็ควบคุมกัญชาทันที โดยจากกัญชาเสรี ผมได้ประกาศควบคุมกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์เพียงอย่างเดียว ส่วนที่มีคนถามว่า ทำไมไม่ประกาศกัญชาเป็นยาเสพติด เพราะในอดีต เขาทำให้เกิดร้านกัญชากว่า 18,000 ร้าน ถ้ายกเลิกเลยจะถูกฟ้องร้องกันเต็มไปหมด จึงควบคุมเป็นทางการแพทย์ ซึ่งวันนี้ พรรคเพื่อไทย ขอประกาศให้พี่น้องศรีสะเกษทราบว่า เรื่องยาเสพติด กับ พรรคเพื่อไทย ไปคนละทาง” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ รัฐบาลมีเสียงมากกว่าฝ่ายค้าน 10 กว่าคน จึงขอให้พี่น้องชาวศรีสะเกษ เลือกน.ส.ภูริกา จะได้ไม่เสียเวลา เพราะปกติเลือกตั้งใหญ่ กว่าจะตั้งรัฐบาลได้ต้องใช้เวลากว่า 6 เดือน แต่การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เราทำงานได้ทันที เช่น ให้ สส.ช่วยติดตามความคืบหน้า ร่าง พ.ร.บ.อสม. ซึ่งตนคาดว่า จะได้รับการพิจารณาจากสภาฯ ไม่สัปดาห์นี้ ก็สัปดาห์หน้า โดยที่ตนเดินหน้าสร้างความมั่นคงให้กับ อสม. เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างหนัก เช่น รณรงค์การนับคาร์บให้พี่น้องประชาชนเข้าใจแล้วกว่า 39 ล้านคน จากเป้าหมาย 50 ล้านคน ซึ่งจากการที่อสม.ช่วยรณรงค์ลดโรค NCDs ก็จะทำให้ภาครัฐประหยัดงบประมาณในการดูแลรักษาได้จำนวนมาก โดยงบประมาณที่ประหยัดได้ ก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะมาช่วยสนับสนุนกิจกรรมส่วนอื่นได้หรือไม่ ซึ่งในร่าง พ.ร.บ.อสม. ก็จะมีกองทุนเงินนอกงบประมาณด้วย
ขณะที่ น.ส.ภูริกา กล่าวว่า ตนเป็นลูกสาว สส.อมรเทพ สมหมาย โดยที่มายืนวันนี้ เพราะเราได้สูญเสีย สส.ที่ทุ่มเทเพื่อประชาชนทุกอย่าง ซึ่งช่วงที่คุณพ่อไม่สบาย ตนก็ได้สัมผัสสิ่งที่ทำเพื่อประชาชน โดยหลายอย่างได้ทำสำเร็จไปแล้ว แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่คุณพ่อเป็นห่วง ตนจึงตัดสินใจมาดูแลพี่น้องประชาชนต่อ เพื่อสานฝัน สานอุดมการณ์ของคุณพ่อให้ดำเนินต่อไป ซึ่งตนไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว แต่พี่น้องชาวศรีสะเกษต้องช่วยกัน และขณะนี้ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาล ถ้าพี่น้องประชาชนมีปัญหา ก็สามารถช่วยประสานได้ทันที ดังนั้น เพื่อการพัฒนาต่อเนื่อง ตนขอโอกาสเข้ามาทำหน้าที่ต่อ เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป
จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมด้วย น.ส.ภูริกา ผู้สมัคร สส.ศรีสะเกษ เขต 5 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1 ได้เดินทางไปปราศรัยต่อที่วัดกลางสันติภาพ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีพี่น้องประชาชน มาร่วมฟังการปราศรัยกว่า 500 คน
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ ตนลาราชการ มาพบปะกับพี่น้องตำบลดงรัก โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปประชุมกับพี่น้อง อสม.ที่อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ แต่ไม่ได้มาที่นี่ เพราะติดช่วงเลือกตั้ง ซึ่งในช่วงการเลือกตั้ง เวลาจะพูดคุยกันอาจเป็นปัญหากับผู้สมัคร ตนจึงจะพูดแต่นโยบายในเรื่องของรัฐบาล และ สส. เพราะมีความใกล้กัน เนื่องจาก รัฐบาลจะตั้งได้ ต้องดูว่าพรรคการเมืองมี สส.เกินกึ่งหนึ่งของ 500 คน และพอเป็นรัฐบาล สส.สั่งย้ายบุคลากรโดยตรงไม่ได้ แต่ต้องสร้างนโยบายผ่านสภาฯ และรัฐบาล จะรับฟังจากสภาฯ หรือ รัฐบาล สั่งสร้างนโยบาย ผ่านความเห็นชอบครม. ก่อนส่งไปยังสภาฯ เช่น พ.ร.บ.อสม. ที่ถูกผลิตจากกระทรวงสาธารณสุข ในขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทย ก็ร่าง พ.ร.บ.อสม.เช่นเดียวกัน ส่วนฉบับอื่นของพรรคอื่น ก็เสนอตาม เพราะเห็นว่า อสม.มีความเข้มแข็ง มีความสามารถ โดยร่าง พ.ร.บ.อสม.ขณะนี้ รออยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาฯเรียบร้อยแล้ว ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้ ใช้เวลากว่า 1 ปี 2 เดือน ถึงเข้าสภาฯ โดยจะเห็นได้ว่า รัฐบาล กับ สส.มีความใกล้ชิดกัน จึงสำคัญเป็นอย่างมากที่พี่น้องชาวศรีสะเกษ ควรเลือก น.ส.ภูริกา เบอร์ 1 พรรคเพื่อไทย เพื่อเข้ามาประสานกับรัฐบาลได้ทันที