นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีชาวบ้าน อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ โพสต์เฟซบุ๊กว่าลูกสาวตัวเองโดนครูลงโทษใช้กรรไกรตัดทรงผมแหว่ง ทำให้เด็กอับอาย ว่า การที่ผู้อำนวยการโรงเรียนเกิดเหตุ ยืนยันว่าระเบียบก็คือระเบียบ สังคมอยู่ได้เพราะระเบียบ ดังนั้น ผอ.จึงต้องศึกษาระเบียบให้ดี อย่าสักแต่พูด เพราะทาง รมว.ศึกษาคนปัจจุบัน มีแนวคิดที่ค่อนข้างดีเอาไว้
ในระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมนักเรียน พ.ศ.2563 ในข้อ 4(2) ที่นักเรียนหญิงไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ ถ้าไว้ผมยาวให้เป็นรวบเรียบร้อย และการที่ ผอ.ให้สัมภาษณ์ในทำนองโทษมั่วๆ ว่า กระทรวงชอบประกาศออกกฎทางสื่อ โดยไม่เเจ้งโรงเรียนให้รู้ ตัวเองเลยไม่รู้นั้น ไม่น่าจะเป็นคำพูดที่มาจากปากคนเป็น ผอ.โรงเรียน เพราะระเบียบดังกล่าวประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการ ตั้งเเต่เดือน พ.ค. ถามว่า ผอ.ไปอยู่ที่ไหนมา และต่อให้นักเรียนทำผิดจริง กรอบการลงโทษตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 ก็มีเพียง 4 สถาน คือ ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ และทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ครูจะลงโทษเด็กตามอำเภอใจไม่ได้ รมว.ศึกษาธิการควรจะตั้งกรรมการสอบกรณีนี้
"ผมมาพูดเพื่อปกป้องทั้งหน้าที่และสิทธิ ทั้งของครูและนักเรียน ไม่ใช่มาให้ท้ายเด็กให้เเหกกฎ แต่เรื่องนี้มันชัดเจนว่าเด็กไม่ผิด จึงต้องปกป้องสิทธิของเด็ก และอย่ามองว่าการลงโทษตัดผมเด็กจนแหว่งเป็นเรื่องเล็กน้อย เเม้เส้นผมจะงอกใหม่ได้ก็ตาม แต่สิ่งที่ต้องตระหนักคือ คุณครูมีหน้าที่สร้างอนาคต ไม่ใช่สร้างปมด้อยให้เด็ก วันนี้ผมได้ส่งคณะทำงานไปพบผู้ปกครองเด็กนักเรียนคนดังกล่าว โดยผมจะพูดคุยกับพ่อแม่ของเด็กด้วยตัวเอง และจะนำไปหารือในสภาฯ สัปดาห์นี้เพื่อให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบดำเนินการต่อไป" นายอิสระกล่าว
ด้าน ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากที่ตนดูข่าวแล้วเห็นว่า ไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตมากมายนัก และช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ จึงอยากขอให้คุณแม่ของเด็กนักเรียนและทางโรงเรียนให้ทำเหมือนว่า ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพราะว่าจะทำให้เด็กได้รับผลกระทบมาก ตนดูแล้วเห็นว่าทรงผมก็ไม่ได้เสียหายอะไรนักหนา เพราะว่าหากมองดูในทางบวกแล้ว แม้ว่าครูจะไปตัดผมเด็กแต่ก็ยังเป็นทรงผมอยู่
ทั้งนี้ อยากอ้อนวอนทางผู้ปกครอง อยากให้เร่งคุยกับทางโรงเรียน ตนไม่อยากให้ปัญหาเรื่องนี้ยาวนานออกไป อยากให้เรื่องนี้เงียบไปเร็วที่สุด ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ อยากให้เด็กนักเรียนไปเรียนหนังสืออย่างมีความสุข อยากให้ทางโรงเรียนให้อภัยเด็กด้วย เพราะว่าเด็กอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือว่าการสื่อสารอาจจะไม่ชัดเจนทั่วถึงกัน ตนจึงอยากให้ทั้ง 2 ฝ่าย แม่ของเด็กและทางโรงเรียนได้มีการเร่งพูดคุยกันไม่อยากให้เรื่องนี้เนิ่นนานออกไป เพราะว่าไม่ได้เป็นผลดีกับใครทั้งนั้น ทั้งฝ่ายเด็กและฝ่ายโรงเรียน เปิดเทอมใหม่เด็กนักเรียนจะได้ตั้งใจเรียนอย่างมีความสุข ขอให้แม่ของเด็ก นักเรียนส่งลูกหลานไปเรียนตามปกติ ส่วนทรงผมก็ขอให้ทำตามกฏระเบียบของโรงเรียน และตนขอฝากทางโรงเรียนให้ช่วยดูแลนักเรียนด้วย เพื่อให้เรื่องนี้ยุติลงด้วยดีเป็นผลดีต่อทุกฝ่ายต่อไป