พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงกรณีที่กลุ่มราษฎร นัดชุมนุมหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฏรเพื่อลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรี ว่า การปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจในการดูแลการชุมนุมวันนี้จะถอดบทเรียนมาจากการชุมนุมครั้งที่ผ่านมาโดยเฉพาะเรื่องการจัดกำลังตำรวจที่จะปรับให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการบังคับใช้กฎหมาย
พร้อมฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุมว่าขณะนี้ยังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงอยากให้ผู้ชุมนุมใช้แนวทางการเจรจากับหน่วยงานที่อยากเรียกร้องเป็นหลัก ซึ่งหากมีการชุมนุมเกิดขึ้นก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ขณะที่ข้อมูลทางการข่าวพบว่าวันนี้ได้มีการรวมตัวกันชุมนุมใน 2 จุด จุดแรกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 10.00 น. และ จุดที่สอง คือบริเวณหน้าอาคารรัฐสภาใน 15.00 น.
โดยวันนี้จะมีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมหรือไม่นั้น รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุไม่สามารถตอบได้ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ชุมนุมหากมีการยั่วยุ หรือ สร้างสถานการณ์ความรุนแรงตำรวจก็ต้องดำเนินการตามยุทธวิธี เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ส่วนจะเปิดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาได้ถึงบริเวณไหนนั้นก็จะต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง โดยได้เตรียมกำลังตำรวจไว้ 4,000 นาย เพื่อผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่ เบื้องต้นตำรวจจะแบ่งประจำการ 3 จุด คือ หน้า บ.บุญรอด แยกเกียกกายวัดแก้วฟ้าจุฬามณี และ วัดประดู่ธรรมาภิปัต
ขณะที่แกนนำกลุ่มราษฎร ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่ามีการปล่อยข่าวว่าวันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมจะนำระเบิดปิงปอง 40 ลูกมาสร้างสถานการณ์ในการชุมนุมนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง พร้อมขอความร่วมมือผู้ชุมนุมให้ต่อสู้ด้วยสันติวิธีงดการพกพาอาวุธเข้าพื้นที่ชุมนุม ส่วนบรรยากาศหน้าอาคารรัฐสภา(เกียกกาย) ถนนสามเสน มีรถฉีดควบคุมฝูงชน หรือ รถน้ำจีโน่ รถเติมน้ำ และ กำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนมาสแตนบายไว้ภายในรัฐสภา ซึ่งทางเข้า-ออกของอาคารรัฐสภาวันนี้เปิดเพียง 1 ประตูใหญ่สำหรับให้รถเข้า-ออกเท่านั้น
ต่อมาเวลา 15.10 ไอลอว์ รายงานผ่านทวิตเตอร์ว่า เริ่มมีมวลชนบางส่วนเข้ามาบริเวนนัดหมายชุมนุม ส่วนด้านในพื้นที่รัฐสภา มีการจัดกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน และรถฉีดน้ำแรงดันสูง เพื่อรับมือสถานการณ์
จากนั้นเวลา 16.00 น. รุ้ง หนึ่งในแกนนำราษฎร เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในบริเวณรัฐสภา โดยบอกกับสื่อมวลชนว่า ตนจะมาชี้แจงให้เจ้าหน้าที่รับฟังว่าการชุมนุมในวันนี้จะไม่มีการใช้ความรุนแรงและจะไม่มีเหตุการณ์อะไรที่จะนำไปสู่การสลายการชุมนุม ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ จะมีการปราศรัยโดยรถซาเล้ง และจะไม่มีการเคลื่อนตัวไปที่ใด โดยกิจกรรมทั้งหมดจะยุติในเวลา 21 .30 น. สำหรับการจราจรการ์ดอาสาได้ปิดการจราจรแยกเกียกายขาเข้าทั้ง 4 เลนโดยใช้แผงเหล็กกั้น และอนุญาตให้เพียงมอไซด์เข้าอย่างเดียว ขณะที่บริเวณแยกบางกระบือ มวลชนนำโดยการ์ด Wevo ได้ทยอยเคลื่อนขบวนเข้าพื้นที่ เพื่อเตรียมตั้งแนวบริเวณหน้ารัฐสภา
โดยบรรยากาศรอบนอกจุดตั้งเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจของม็อบราษฎร หลังเริ่มต้นการปราศรัยได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ยังไม่มีสถานการณ์ตึงเครียดเกิดขึ้น แต่บริเวณแยกเกียกกาย ด้านข้างศูนย์ราชการเทพฯ (เกียกกาย) พบว่า มีรถควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการอยู่ 2 คัน ขณะที่กลุ่มราษฎรได้ตั้งแนวกั้นทั้งสองฝั่งคือ ฝั่งแยกเกียกกาย และฝั่งบริษัทบุญรอดฯ โดยมีทีมแพทย์อาสาเข้าตรวจวัดอุณภูมิผู้ร่วมร่วมชุมนุมด้วย โดยภาพรวมพบว่า ยังคงมีการเดินทางเข้ามาสบทบของมวลชนเพิ่มขึ้นเรื่อย
ทั้งนี้นอกจากการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา ในพื้นที่ภาคอีสานได้มีกลุ่มราษฎรโขง ชี มูล รวมตัวการจัดกิจกรรมคู่ขนานไปกับกลุ่มราษฎรในเมืองหลวง โดยปักหลักที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์ชุมนุมเช่นเดียวกัน