วันที่ 7 พ.ค. มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการทำงาน ว่า ต้องขอคุยกับกระทรวงก่อน และเมื่อได้รับโจทย์ที่นายกรัฐมนตรี มาแล้ว เรื่องงานด้านต่างประเทศ ก็เป็นเรื่องของประชาชนด้วย
ส่วนที่มีสื่อโซเชียลในเมียนมาเสนอข่าว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปคุยกับคนกลุ่มน้อยในเมียนมา ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ มาริษ กล่าวว่า ตนพึ่งได้ข่าวเหมือนกัน ซึ่งในเมียนมาต้องยอมรับว่า ท่านทักษิณ เป็นคนที่กว้างขวาง เมียนมา ก็คงเห็นว่าท่านคงจะช่วยได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางเมียนมาคุยกับท่านไม่เกี่ยวกับรัฐบาล
และเมื่อถามย้ำว่า เป็นการพูดคุยส่วนตัวไม่เกี่ยวกับรัฐบาลใช่หรือไม่ มาริต ย้ำว่า ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล อย่างที่บอกเราก็เพิ่งทราบเรื่อง และยอมรับว่า ที่ผ่านมาเราก็เป็นตัวกลางในการเจรจา ซึ่งเราก็ดำเนินการตามกรอบของอาเซียน บางอย่างก็กำลังดำเนินการ แต่ยังไม่อยากเปิดเผย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องการความสมานฉันท์ปรองดองให้เกิดขึ้นในเมียนมา หากยังเป็นอยู่อย่างนี้ประเทศไทยก็ลำบากด้วย ในฐานะที่มีพรมแดนเชื่อมติดต่อกันยาวมาก ดังนั้น หากเกิดอะไรขึ้นก็จะกระทบประเทศไทย ซึ่งใครช่วยอะไรได้ก็ต้องช่วย ไม่จำเป็นต้องเป็นทางการ เป็นเรื่องของเมียนมาไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาลหรือชนกลุ่มน้อย ที่ขอให้ท่านทักษิณช่วย ก็เป็นเรื่องของเขา
ส่วนแนวทางที่ ทักษิณ พูดคุยตรงกับแนวทางของกระทรวงการต่างประเทศ หรือไม่ มานิต กล่าวว่า ยังไม่เห็น เพิ่งได้ยินจากข่าว จึงไม่ทราบในรายละเอียด โดยเป็นเรื่องที่เมียนมาจะดำเนินการเอง เราไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไร และไม่ทราบว่าจะตรงกับแนวทางของรัฐบาลหรือไม่ แต่เราดำเนินการในส่วนของเราร่วมกับอาเซียน ขณะเดียวกัน ในการช่วยเหลือด้านมนุษยชนเราก็ดำเนินการตามกรอบของอาเซียน
มาริษ ยังปฏิเสธแสดงความเห็นกระแสข่าวที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยอาจจะประสานใช้สถานทูตไทย ในประเทศหนึ่งเป็นสถานในการรายงานตัว โดยยืนยันว่า ตนเองยังไม่ทราบเรื่อง และเรื่องใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบาย หรือไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการต่างประเทศ ตนไม่ขออนุญาตตอบ