วันที่ 29 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 3 ของพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งหนังสือแจ้งลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต่อกรรมการบริหารพรรค มีผลตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันนี้ ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคทั้ง 21 คน ต้องพ้นจากตำแหน่งและหมดวาระลงในทันที ตามข้อบังคับ 

ต่อมา ในระเบียบวาระที่ 3 ของการประชุม วาระการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม อรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 ในฐานะหัวหน้าทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร อีกครั้ง โดยไม่มีผู้ใดเสนอเพิ่มเติม และสมาชิกพรรคได้ลงคะแนนรับรองซึ่งมากกว่า 30 เสียงขึ้นไป 

ทั้งนี้ แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคพลังประชารัฐเปิดเผยว่า การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคในครั้งนี้ ต้องการมีมติให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เขต 1 ในฐานะประธานประสานงาน สส. พรรคพลังประชารัฐ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค แทน สันติ พร้อมพัฒน์ ที่จะย้ายไปดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคแทน 

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตาว่า การประกาศลาออกของ พล.อ.ประวิตร ในครั้งนี้อาจถือได้ว่าเป็นความสมัครใจ แม้จะเป็นการลาออกพอเป็นพิธี เพื่อให้เข้าล็อคการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่ต้องการ 2 ลุง (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เข้าร่วมรัฐบาล

รวมไปถึงกระแสข่าวที่ว่า พล.อ.ประวิตร อาจจะถอยจากการเมืองหน้าฉาก แล้วส่งไม้ต่อให้แก่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย ในการสานต่องานการเมือง โดยจะประสานผ่าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 

‘ประวิตร’ คัมแบ็ค หน.พปชร. ‘ธรรมนัส’ นั่งเลขาฯ ตามคาด 

ผู้สื่อข่าวรายงานผลการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ โดยมติของที่ประชุมมีได้เลือกให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคกลับเข้ามาเป็นรับตำแหน่งอีกครั้ง 

ด้านรองหัวหน้าพรรคจำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1.สันติ พร้อมพัฒน์ 2.ไพบูลย์ นิติตะวัน 3.ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 4.วิรัช รัตนเศรษฐ และ 5.ตรีนุช เทียนทอง

ขณะที่ ตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่จับตากันก็เป็นไปตามคาด ตกเป็นของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เขต 1 ในฐานะประธานประสานงาน สส. และนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นเหรัญญิกพรรค รวมถึง พล.อ. กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เป็นนายทะเบียนพรรค

นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมเพิ่มเติม อีก 12 ให้ครบตามข้อเสนอให้มีการขยายจำนวนคณะกรรมการเป็น 21 คน ประกอบด้วย 1.สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ 2.ยงยุทธ สุวรรณบุตร 3.อรรถกร ศิริลัทธยากร 4.สกลธี ภัททิยกุล 5.บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ 6.อภิชัย เตชะอุบล7. อัครวัฒน์ อัศวเหม 8.บุญยิ่ง นิติกาญจนา 9.ไผ่ ลิกค์ 10.สุธรรม จริตงาม 11. กระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ และ 12.กาญจนา จังหวะ