นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รับฟังข้อสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติอันดามัน ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงาซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดในการก่อสร้างประมาณ 7,000 ไร่
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงการเวนคืนที่ดิน พร้อมเน้นย้ำว่าอย่าทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการเวนคืนที่ดิน โดยได้ให้มีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการดำเนินการเรื่องการเวนคืนที่ดิน เพื่อประเมินเป็นเคพีไอ ให้รู้ถึงความคืบหน้าการดำเนินงาน เบื้องต้นได้ตั้งกรอบระยะเวลาไว้ 18 เดือน ซึ่งมีจำนวนหนึ่งใน 3 ของที่ดินทั้งหมด 7,000 กว่าไร่ที่ยังไม่ได้เวนคืน จึงอยากให้มีการทำแผนว่าทั้งหมดมีกี่ไร่และระยะเวลาเท่าไหร่ เพื่อบริหารจัดการความคาดหวังและวางแผนการออกแบบได้ เพราะบางอย่างสามารถทำคู่ขนานกันได้ เพราะไม่อยากทำเร็วเกินไปเนื่องจากมีปัญหาเรื่องงบประมาณด้วยทุกอย่างต้องรักษากรอบวินัยการเงินการคลัง
นายกรัฐมนตรียังระบุว่าการลงพื้นที่วันนี้เป็นครั้งที่ 2 ในระยะเวลาไม่ถึงเดือน โดยช่วงเช้าตนได้ไปเปิดอาคาร SAT-1 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งท่าอากาศยานได้มีการต่อเติมเพิ่มเพื่อรองรับผู้โดยสาร การเพิ่มเที่ยวบินและการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวของรัฐบาลนี้
ส่วนการเดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ตในวันนี้ เพื่อมาติดตามความคืบหน้า หลังจากที่ในครั้งแรกได้มารวบรวมข้อมูล และหลังจากวันที่ 11 กันยายนเมื่อมีอำนาจสั่งการ ให้มีการดูแลเรื่องการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักในจังหวัดภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ทำให้ระยะทางจากการเดินทางไปสนามบินจากที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงต้องใช้ประมาณ 2 ชั่วโมง และต้องมีการปรับปรุงเส้นทางกระทู้-ป่าตอง ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้กลับไปทำการบ้านมาอย่างดี ซึ่งจะมีการทำถนน 3-4 สายในทันที ทั้งการเจาะภูเขา หรือถนนที่ออมจากในเมืองถึงสนามบิน รวมถึงถนนสายอื่นๆ ที่ไม่ทำให้การจราจรติดขัดเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน
เชื่อว่าจะเป็นมิติใหม่ในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนี้
” วันนี้ชาวภูเก็ตไม่ต้องคอยแล้วครับรัฐบาลนี้จะเริ่มต้นแผนพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างดีและเร็วที่สุด มีทั้งระยะสั้นระยะกลางและระยะยาว รวมถึงที่เรามายืนอยู่จุดนี้ที่ดิน 7,000 กว่าไร่ สำหรับเป็น international airport ซึ่งจะรองรับพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่และระนอง โดยใช้ชื่อเบื้องต้นว่าอันดามันอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์พอร์ต โดยจะรองรับเที่ยวบินได้หลาย 10 ไฟลท์ เพียงพอต่อเที่ยวบินที่จะมาลงโดยไม่ต้องขยายเพิ่มอีกแล้วถือเป็นนิมิตหมายอันดีของชาวภาคใต้ ที่จะได้รับประโยชน์จากการที่รัฐบาลลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ “
ส่วนการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในไตรมาสสี่ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติและการท่าอากาศยานที่มีการเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งการอนุญาตให้ไรเดอร์เข้าไปรับ นักท่องเที่ยวได้ถึงประตู ลดระยะทางในการเดินออกไป ขณะที่เรื่องของการตรวจคนเข้าเมือง ต้องบริหารจัดการไม่ให้คิวยาว เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความประทับใจ ขณะที่การยกเลิกการขอวีซ่าของนักท่องเที่ยวจีน ก็เห็นได้ชัดว่ามีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากถึง 80% แล้ว และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยเรื่อย ซึ่งเป็นควิกวินที่พูดได้ว่าประสบความสำเร็จในขั้นต้น และได้รับความร่วมมือจากทุกองค์กรอย่างเต็มที่ ในฐานะรัฐบาลขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ตั้งใจและใส่ใจในเรื่องนี้
แต่อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรียอมรับด้วยว่ายังมีความเป็นห่วงในทุกเรื่อง เพราะในสถานการณ์ ที่เราเพิ่มธุรกิจขึ้นมาหลายอย่าง ขณะที่เรื่องความมั่นคงก็ต้องดูแลให้ดี ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ยืนยันว่าจะลงพื้นที่และเชื่อมั่นว่า ทุกฝ่ายจะมีความพร้อม ขณะเดียวกันก็ต้องทำเรื่องอื่นควบคู่กันไปด้วย เช่น ททท.ต้องทำการโปรโมท รวมถึงเรื่องเฟสนิวก็ต้องบริหารจัดการแก้ไข ซึ่งทั้งหมดได้มีการพูดคุยและเฝ้าระวังปัญหาต่างๆอย่างใกล้ชิด
สำหรับการเตรียมการเรื่องโครงสร้างพื้นฐานรองรับสนามบินแห่งใหม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในอนาคตจะมีการเชื่อมต่อการคมนาคม เนื่องจากเป็นสนามบินนานาชาติ
ส่วนระบบสาธารณูปโภคอื่นๆนายกรัฐมนตรีระบุว่าก่อนหน้านี้ได้ ซึ่งต้องการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องโรงกำจัดขยะซึ่งต้องฝากกระทรวงมหาดไทยให้ช่วยดูแล เนื่องจากการขยายสนามบินมาพร้อมความเจริญ หลายส่วนจะต้องร่วมมือกันเป็นเรื่องสำคัญอีกทั้งเรื่องน้ำก็เป็นเรื่องสำคัญ
ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำ ได้มีการพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อร่วมมือกัน
ทั้งนี้ระหว่างลงพื้นที่มีประชาชนมามอบดอกไม้รอต้อนรับให้กำลังใจโดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่แต่มีข้อเสนอแนะเรื่องผลกระทบจากการ ทำสนามบินซึ่งมี 35 ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบขอให้ดูแลชดเชย เยียวยาให้เหมาะสม
นอกจากนี้นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดการขยายเวลาการเปิด-ปิด สถานบริการย่านป่าตอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ว่า ตนเพิ่งคุยโทรศัพท์กับหน่วยด้านความมั่นคงว่าเรื่องนี้เราจะทำอย่างไรกันต่อไป และขอให้เป็นขั้นตอนไป เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและตนพูดมาตลอดอยากให้มีการขยายเวลาในบางเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว วันนี้ยังตอบไม่ได้เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณา และขอดูข้อเสียทั้งหมดก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตบ่อยมีนัยทางการเมืองอะไรหรือไม่ เศรษฐาตอบ ว่า ไม่มีเลย เราเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน และเราเป็นรัฐบาลของประชาชนทุกๆ ภาคทุกๆ จังหวัด อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หรือพรรคแกนนำอย่างพรรคเพื่อไทย จะมีสส.หรือไม่มีสส. เราไม่ถือตรงนี้ เราถือว่าเรามาเป็นรัฐบาลของประชาชน เป็นหน้าที่ที่เราตระหนักดีว่า หากพื้นที่ตรงนี้ถือเป็นเครื่องจักรสำคัญ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจจะมาบ่อยกว่านี้ก็ต้องมา
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกฯ ได้พักค้างคืนต่อที่จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ