ไม่พบผลการค้นหา
ช่วงหยุดยาวปีใหม่แต่ ‘เกมการเมือง’ ไม่มีหยุด จู่ๆ เกิดเกิดกระแสข่าว ‘ดีลข้ามขั้ว’ 3 พรรค ระหว่าง ‘ภูมิใจไทย-พลังประชารัฐ-เพื่อไทย’ ที่เตรียมผนึกกำลัง ส.ว. ที่มีสายบ้านป่ารอยอยู่ด้วย กรุยทางดัน ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเป็น นายกฯ คนที่ 30

เป็นดีลล้ม ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้พ้นเก้าอี้นายกฯ ในการตั้งรัฐบาลใหม่ปีนี้ แต่ทุกอย่างถูกสยบ แต่ละฝ่ายออกมาปฏิเสธข่าว เว้นแต่ ‘พลังประชารัฐ’ ที่นิ่งเงียบ เป็นกลายๆ ว่า ‘ยอมรับ’ หรือไม่

ทำให้แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค รีบออกมาสยบข่าว ยังไม่คิดจับมือกับใครในการตั้งรัฐบาล เดินหน้า ‘แลนด์สไลด์​’ เท่านั้น เพื่อสู้กับอำนาจ 250 ส.ว. เพราะกระแสข่าวทำนองนี้ ‘ไม่เป็นเรื่องดี’ กับพรรคเพื่อไทย เพราะจะเสียคะแนนและเสียงรังวัดในเกมการเมืองได้

ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทย เคยปฏิเสธการกลับเข้ามาของ ‘ผู้กองคนดัง’ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กุนซือมือทำงาน ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’

แม้ ‘ผู้กอง’ จะเคยโตมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย แต่พรรคก็ชั่งน้ำหนักแล้ว ‘ได้ไม่คุ้มเสีย’ เกรงจะมีแรงต้านตามมา เพราะพรรคเพื่อไทยเคยอภิปราย ‘ผู้กองคนดัง’ กลางสภาฯ จึงเป็นที่มาของ ‘ตำนานแป้ง’ นั่นเอง

ชลน่าน ธีรรัตน์ ประเสริฐ -900B-41BC-9424-1E2883BEA977.jpeg

ในฝั่ง ‘เสี่ยหนู’อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ออกมาสยบข่าวดีล 3 พรรค ผนึก ส.ว. ดัน ‘บิ๊กป้อม’ เป็น ‘นายกฯคนละครึ่ง’ แบ่งกันคนละ 2 ปี ‘บิ๊กป้อม-อนุทิน’ ทำให้กระแสข่าว ‘ดีลสามประสาน-ข้ามขั้ว’ ถูกดับลงไป

แต่ยังคงที่ ‘เค้าลาง’ ไว้ให้จับตาต่อไป เพราะงานนี้ต้องมองไปถึง ‘เนวิน ชิดชอบ’ ผู้มากบารมีนอกพรรคภูมิใจไทย ที่สถาปนาตัวเองเป็น ‘ครูใหญ่ ภูมิใจไทย’ ที่ผ่านมาย้ำถึงความเป็น ‘คนนอกพรรค’ เพราะเกรงเรื่องกฎหมายที่ห้ามครอบงำ โดนถึงขั้นยุบพรรค 

ซึ่ง ‘เนวิน’ ก็โยนให้เป็น ‘ความรับผิดชอบ’ ของ ‘อนุทิน’ ไป

ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยพยายามรีแบรนด์พรรคที่ ‘ไร้ขั้ว ไร้สี ไร้ขัดแย้ง’ พร้อมเดินเครื่อง ‘พลังดูด ส.ส.’ มาได้เพียบ ด้วย ‘เสบียง-กระสุน’ ที่มีเต็มที่

อีกทั้ง ‘อนุทิน-เนวิน’ ก็เคยร่วมรัฐบาลทักษิณ ในอดีต ยุคพรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคพลังประชาชน รัฐบาลสมัคร-สมชาย ก่อนที่พรรคพลังประชาชนจะถูกยุบพรรค

เป็น ‘จุดพลิกผัน’ ที่ ‘ครูใหญ่เนวิน’ เปลี่ยนขั้วไปหนุน ‘ประชาธิปัตย์’ แทน โดยนำ ‘กลุ่มเพื่อนเนวิน’ จับมือกับพรรคมัชฌิมาธิปไตย หรือ ‘กลุ่มสมศักดิ์ เทพสุทิน’ ไปสนับสนุน ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ ขึ้นเป็น นายกฯ นำมาสู่วาจะอมตะ “มันจบแล้วครับนาย” และนำมาสู่การสัมพันธ์คู่ขนานระหว่าง ‘เนวิน-ทักษิณ’ 

อนุทิน ศักดิ์สยาม ภูมิใจไทย เนวิน -03B8-49E6-A55B-0BEE42C81B52.jpegอนุทิน ภูมิใจไทย ชนม์ทิธา ไชยชนก -B13D-43E1-BB33-F2E0EA7C9FB5.jpeg

ในฝั่ง พรรคภูมิใจไทย รู้ดีว่า 250 ส.ว. คืออุปสรรคใหญ่ในการดัน ‘อนุทิน’ ขึ้นเป็นนายกฯ หากไม่ได้รับ ‘ไฟเขียว’ จากขั้วอำนาจ 3ป.

ทำให้ ‘อนุทิน’ รู้ตัวว่ายังไม่ถึงเวลาของตัวเอง จึงต้อง ‘ตามน้ำ’ ไปก่อน ซึ่ง 250 ส.ว. จะครบวาระ 5 ปี ในการโหวตเลือกนายกฯได้ พ.ค.2567 ซึ่งก็เป็นอุปสรรคใหญ่ของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ดังนั้นการ ดีล 3 พรรค ก็ถือเป็นอีก ‘สมการอำนาจ’ ในอนาคต ในหมากที่ไม่มีชื่อ ‘บิ๊กตู่’ นั่นเอง

โดยเฉพาะฝั่งพรรคเพื่อไทยที่หวังได้กลับมา ‘มีอำนาจ’ อีกครั้ง โดยงานนี้ก็ต้องมองอย่างเหนือชั้น เพราะมองเห็น ‘ความเสี่ยง’ หากจะเร่งเครื่องมามีอำนาจทันควัน แต่ก็ติดบล็อกจาก 250 ส.ว. หากจะเดินเกมยาวถึงปี 2570 ก็ต้องสู้แบบ ‘แทรกซึมอำนาจ’

รอเวลาที่ได้เปรียบแล้วเผด็จศึกคืน ผ่านการ ‘ต่อรองทางอำนาจ’ กับขั้วอำนาจ ‘3ป.’ โดยเฉพาะกับ ‘บิ๊กป้อม’ ที่มีสายสัมพันธ์ระหว่าง ‘บ้านจันทร์ฯ-บ้านป่าฯ’

หรือที่เรียกว่า ‘เส้นบุญคุณ’ เพราะ ‘บิ๊กป้อม’ ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ในยุครัฐบาลทักษิณ ที่สำคัญน่าสนใจว่า ‘บิ๊กป้อม’ ก็เล่นบทไม่ขัดแย้งใคร รีแบรนด์ พปชร. เป็นพรรคไร้ขั้วไร้สีแบบพรรคภูมิใจไทย ด้วย

แต่พรรคพลังประชารัฐกำลังเผชิญกับปัญหาภายในระหว่าง ‘มุ้งใหญ่’ พปชร. กับ ‘ขุนพล’ ของ ‘บิ๊กป้อม’

โดยเฉพาะ ‘ป.ที่4’ ที่มีอิทธิพลภายใน พปชร. มากขึ้น

ซึ่ง ‘ป.ที่ 4’ ถูกจับตามาตั้งแต่เหตุการณ์ ‘ล้มนายกฯ’ กลางสภาฯมาแล้ว

และว่ากันว่า ‘ป.ที่ 4’ ก็คือ ‘คีย์แมนสำคัญ’ ของการดีลข้ามขั้ว และเป็น ‘คู่ตรงข้าม’ กับ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้เกิดความหวาดระแวงขึ้นมา เป็นอีกเหตุผลที่ ‘บิ๊กตู่’ ต้องอพยพมาสร้างรังใหม่ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’

ประวิตร พลังประชารัฐ - สวดมนต์ 58-9A839CAE6903.jpeg

ดังนั้นเส้นทางของ ‘2ป.ประยุทธ์-ประวิตร’ จึงแยกพรรคกัน แต่จะเป็น ‘แยกกันเดิน รวมกันตี’ หรือไม่ ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้

แม้ทั้ง ‘2ป.’ จะย้ำสัมพันธ์พี่น้อง-สายเลือดทหาร แต่ใน ‘สนามการเมือง’ ต่างจาก ‘สนามรบชายแดน’ ที่ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร

ในอีกแง่มีการมองว่าหาก ‘สูตรดีลข้ามขั้ว’ เกิดขึ้นจริง ‘บิ๊กป้อม’ ก็จะเป็นคนที่มา ‘ระวังหลัง’ ให้กับ ‘บิ๊กตู่’

แต่ในเวลานี้ ‘บิ๊กตู่’ สู้เต็มสูบ ไม่ต้องการให้ ‘รัฐประหาร 2557’ นั้น ‘เสียของ’

ในฝั่ง ‘ภูมิใจไทย-อนุทิน’ ลึกๆแล้ว ก็ยังอยากอยู่กับ ‘ขั้วอำนาจ 3ป.’ โดยเฉพาะกับ ‘บิ๊กตู่’

เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจต่อรองในรัฐบาลอย่างมาก อีกทั้ง ‘บิ๊กตู่’ ก็ตามใจ-ไม่ล้วงลูก ทำให้เก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย แทบไม่มีการเปลี่ยน-ไม่มีขยับ อยู่กันยาวๆ 4 ปี แต่ก็แลกมาซึ่งการเติบโตเป็น ‘พรรคใหญ่’ มิหนำซ้ำ พรรคเสี่ยหนูกลับไม่ใช่คู่แข่งของ ‘พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ’ ที่ผูกโยงกับ ‘อำนาจ 3ป.’

เมื่อ 'ภูมิใจไทย' โตขึ้น กลับกลายเป็นคู่แข่งของ ‘เพื่อไทย’ นั่นเอง

เกมซ่อนมีดภาคใหม่ !!