องค์กรนักข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Borders - RSF) หน่วยงานด้านเสรีภาพสื่อระดับนานาชาติ ที่สนับสนุนและปกป้องเสรีภาพสื่อและเสรีภาพข้อมูลข่าวสาร ได้เปิดเผยในรายงาน "Press Freedom Predators" หรือ "ผู้ล่าเหยื่อด้านเสรีภาพสื่อ" เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (5 ก.ค.) ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ติดอันดับหนึ่งใน 37 ผู้นำโลกที่ปราบปรามการใช้เสรีภาพของสื่ออย่างหนัก

โดยนอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ของไทยเเล้ว ยังมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน รวมไปถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนืออย่างคิม จองอึน และพล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่ายของกองทัพเมียนมา ติดโผด้วย

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมในรายงานของ RSF ระบุเอาไว้ว่า นับตั้งแต่การก่อรัฐประหารยึดอำนาจในปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ ได้ควบคุมข้อมูลข่าวสารภายใต้ระบบที่ครอบคลุมเป็นอย่างยิ่ง และใช้ระบอบการปกครองซึ่งสร้างความหวาดกลัวต่อบุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมเผยว่า เพียงแค่ในช่วงหนึ่งปีเเรกที่พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในอำนาจ นักข่าวและบล็อกเกอร์กว่า 20 ราย ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจำคุก

ยิ่งไปกว่านั้น ในรายงาน ยังระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพซึ่งมีอัตราโทษสุงที่สุดในโลก เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อปราบปรามสื่อเสรีในประเทศไทย

ส่วนหนึ่งของเนื้อหาเกี่ยวกับการคุกคามเสรีภาพสื่อในประเทศไทยที่ RSF ได้พูดถึง คือ กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดใส่นักข่าวเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อที่จะให้ผู้สื่อข่าวหยุดถามคำถาม และกรณีที่สื่อขั้วตรงข้ามรัฐบาลอย่าง Voice TV ถูกสั่งห้ามออกอากาศเมื่อสองปีก่อนช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง