เหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์วันชี้ชะตาพรรคอนาคตใหม่ กำลังจะมาถึงในวันที่ 21 ก.พ. 2563 เมื่อศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่จากกรณีกู้ยืมเงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.2 ล้านบาท อันเป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 72พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ซึ่งเป็นกรณีที่ประชาชนให้ความสนใจ เนื่องจากถูกมองว่าเป็นคดีทางการเมือง และมีการตั้งข้อสังเกตนับตั้งแต่ขั้นตอนของคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ว่าจะเป็นเอกสารหลุดและความผิดปกติที่สร้างความกังขาว่ามีการตั้งธงยุบพรรค หรือตัดตอนทางการเมืองก่อนศึกอภิปรายไว้ไว้วางใจรัฐบาลตู่ 2 หรือไม่
ล่าสุด ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เริ่มการรณรงค์ผ่าน 'change.org' เปิดพื้นที่ทางการเมืองให้ทุกฝ่าย ลงชื่อคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่ ล่ารายชื่อเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยมีวัตถุประสงค์ส่งเสียงถึงผู้มีอำนาจ เพื่อปกป้องเสรีภาพทางการเมืองไม่ว่าจะมีความเชื่อหรืออุดมการณ์ตามแนวทางของฟากฝั่งรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ดังนั้นประชาชนจึงต้องร่วมมือกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำลายล้างทางการเมืองครั้งใหม่ เพราะเป็นที่รับรู้ของคนในสังคมว่า ที่ผ่านมามีความพยายามที่ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายทำลายพรรคอนาคตใหม่ โดยผู้มีอำนาจไม่สนใจถึงราคาสังคมไทยจะต้องร่วมกันจ่าย
นายชาญวิทย์ระบุในการณรงค์ว่า
"เราไม่ได้บอกว่าพรรคอนาคตใหม่ดีงามสมบูรณ์แบบจนทุกคนต้องลุกขึ้นมาเป็นปากเป็นเสียงต่อสู้ให้
"สิ่งที่กำลังจะบอกก็คือ ไม่ว่าเราจะมีความเชื่อแบบไหนก็ตาม จะมีคนที่เชื่อไม่เหมือนเราอยู่ร่วมสังคมเดียวกันเสมอ ไม่มีวันหายไป
"การลงชื่อครั้งนี้ เป้าหมายคือ การปกป้องวันนี้และอนาคตของประเทศไทย
"การเมืองที่ดีควรเป็นระบบที่เปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามาต่อสู้แข่งขันกันได้อย่างเสรีเป็นธรรม โดยมีประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ส่วนการมุ่งกำจัดกลุ่มการเมืองใดๆ ให้สิ้นซากนั้น มีแต่จะทำให้สังคมตึงเครียดรอวันระเบิด
"ช่วยกันหยุดการทำลายล้างทางการเมืองครั้งใหม่ที่จะไม่เหลืออะไรนอกจากความพัง..
"ความสงบจบที่อยู่ร่วมกัน
"ทางออกที่ดีที่สุดคือการเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้กว้างที่สุด สนับสนุนให้พรรคการเมืองของประชาชนเข้มแข็ง
"เลิกคิดเสียทีว่า การยุบพรรคการเมืองหรือตัดสิทธิ์ทางการเมืองของคนที่คิดไม่เหมือนเราจะนำไปสู่ความสงบในสังคม
"ที่ผ่านมามีความพยายามในการหยุดยั้งหรือทำลายพรรคอนาคตใหม่อยู่จริง โดยผู้มีอำนาจไม่สนใจถึงราคาที่สังคมไทยจะต้องร่วมกันจ่าย
"ประชาชนและประเทศไทยบอบช้ำมามากพอแล้ว พอกันทีกับการกดทับเสียงของความเปลี่ยนแปลง อำนาจการตัดสินปัจจุบันและอนาคตต้องอยู่ในมือประชาชนอย่างเรา ไม่ใช่อยู่ที่คนเพียงหยิบมือ
"นี่เป็นโอกาสที่เราจะได้ยืนยันสิทธิอันชอบธรรมนั้น"
ล่าสุดเวลา 15.00 น. มีผู้ร่วมสนับสนุนแคมเปญดังกล่าว 10,315 คน
นอกจากร่วมลงชื่อแล้ว ผู้ร่วมลงชื่อยังร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น ต้องการความถูกต้อง ความหวัง การเดินทาง การเปลี่ยนแปลง, ความไม่เป็นธรรมของฝ่ายที่ทำงานให้เผด็จการ ยุบพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามมาโดยตลอด , ไม่เห็นด้วยกับความไม่ถูกต้อง ที่เกิดจากการเลือกปฏิบัติ สองมาตรฐานของระบบยุติธรรม, ไม่เชื่อว่าการกำจัดคนเห็นต่างจะเป็นทางออกของสังคมไทย , พรรคนี้มาจากประชาชน ไม่ได้มาจากทหาร เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ที่มีชื่อเสียงจากหลายวงการ ได้ร่วมลงชื่อในแคมเปญดังกล่าวด้วย อาทิ
แวดวงบันเทิงและศิลปิน: กรุณพล เทียนสุวรรณ ดารานักแสดง , คชาภา ตันเจริญ พิธีกร ณัฐวุฒิ เจนมานะ หรือ แม็กซ์ เจนมานะ นักร้อง นักแต่งเพลง ตุล ไวฑูรเกียรติ, ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกและนักออกแบบ, ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล หรือ “มะเดี่ยว” - ผู้กำกับภาพยนตร์ รางวัลสุพรรณหงส์ เป็นต้น, นายอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล หรือ “เจ้ย” - ผู้กำกับภาพยนตร์ รางวัลปาล์มทองคำ
นักวิชาการ: เกษียร เตชะพีระ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,โคทม อารียา อดีตกรรมการการเลือกตั้ง , เสกสรรค์ ประเสริฐกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการประวัติศาสตร์
นักเคลื่อนไหวทางสังคม: ทิชา ณ นคร นักสิทธิเด็ก เยาวชน และสตรี , บรรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย , สมชาย หอมลออ นักกฎหมายสิทธิมนุษยชน, นายชินกร ก้าววิทยาคม นายกสมาคมลาหู่แห่งประเทศไทย เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีบุคคลสำคัญที่มีบทบาททางสังคมอีกหลายคน เช่น นายบรรยง พงษ์พานิช อดีตคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือ ซูเปอร์บอร์ด นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ สษศ นักคิดนักเขียนอาวุโส นายอธิคม คุณาวุธ บรรณาธิการนิตยาสาร WAY MAGAZINE ฯลฯ ร่วมลงชื่อในแคมเปญดังกล่าวด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง