ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก แกนนำราษฎรมวลชน และผู้ปราศรัย ม็อบ21ตุลา63 ที่โดนคดีความผิดร้ายแรงตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นำโดย ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ แกนนำกลุ่ม ROOT เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่ออัยการ เพื่อขอให้อัยการยุติคดีโดยไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแขวงดุสิต โดยมีอธิบดีสำนักงานอัยการศาลสูงเป็นผู้มารับหนังสือ 

เนื่องจากกรณีวันที่ 21 ตุลาคม 2563 คณะราษฎร63 ได้จัดชุมนุมและเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือลาออกให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการนัดรวมตัวบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนเคลื่อนขบวนสู่ทำเนียบรัฐบาล 

โดยคดีในส่วนของ ภัทราวลีนั้น ศาลแขวงดุสิตได้มีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ให้เหตุผลว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีการประกาศออกมาจะถูกใช้ก็ต่อเมื่อสถานการณ์นั้นฉุกเฉินและร้ายแรงจริงๆ ถึงจะบังคับใช้ได้ และการชุมนุมของประชาชนวันนั้น ก็ไม่เข้าข่ายการชุมนุมมั่วสุม เพราะการมั่วสุมต้องเป็นการรวมตัวกันและมีเจตนาที่ไม่ดี จึงเป็นการชุมนุมที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 เป็นการชุมนุมโดยสงบซึ่งเป็นสิทธิที่ประชาชนสามารถทำได้ 

ภัสราวลี กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือวันนี้ต้องการเรียกร้องอัยการ 3 ข้อคือ 

   1.) ขอให้ยุติคดีหรือไม่ต้องยื่นอุทธรณ์คดีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินของตน ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมวันที่ 21 ตุลาคม 2563

   2.) ขอให้อัยการถอนฟ้องคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในคดีที่อัยการได้สั่งฟ้องประชาชนไปแล้ว

   3.) ขอให้อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินกับประชาชน ในส่วนที่ยังไม่ฟ้องหรือกำลังจะยื่นฟ้อง

ภัสราวลี ย้ำถึงการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชน ตามรัฐธรรมนูญที่คุ้มครองไว้และการมายื่นหนังสือต่ออัยการครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะให้ความเป็นธรรมยังคงอยู่กับประชาชนต่อไป