ไม่พบผลการค้นหา
'ตู่' เมินจดหมาย 'ป้อม' มองคนปลุกกระแสรัฐประหารช่วงใกล้เลือกตั้งหวังดิสเครดิตแน่นอน ยิ้มรับหลังถูกถามคนรอบข้าง 'ประวิตร' เขียนใช่ไหม บอกคนช่วยท่านเยอะ ลั่นรัฐประหาร 57 ควรเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ควรมีแล้ว แต่ไม่ปิดประตู ถ้าขัดแย้งรุนแรงอีก จะแก้ด้วยอะไร

วันที่ 9 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงถึงข้อสังเกตุที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเทงบประมาณในช่วงปลายสมัยรัฐบาล เพื่อสร้างคะแนนนิยมในช่วงใกล้เลือกตั้งหรือไม่ ว่า เรื่องเพิ่มเงิน อสม. เป็นเรื่องที่นานมาแล้วและเป็นข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาล แต่การใช้งบประมาณเป็นเรื่องของภายภาคหน้าเป็นงบประมาณของปี 67 ที่ต้องผ่านสภาอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เป็นแค่เพียงหลักการที่เห็นชอบไป พร้อมย้ำว่าเราไม่ได้ทำให้ใคร แต่ทำเพื่อประชาชน แล้วก็ต้องดูปริมาณงานของ อสม.ที่เขาเหน็ดเหนื่อยด้วย 

เมื่อถามว่า มองการหาเสียงของแต่ละพรรคการเมืองในช่วงนี้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนหาเสียงในสิ่งที่ตัวเองคิดจะทำในวันข้างหน้า ตนไม่อยากไปเกี่ยวข้อง แต่การเสียงของผมเอง ขอตอบในฐานะการเมือง เคยบอกไปแล้วว่าการหาเสียงจะต้องระมัดระวังที่สุด ต้องไม่เกิดภาระและปัญหากับประเทศในวันข้างหน้า เพราะวันนี้เราแก้มานานแล้วและหลายเรื่องก็ดีขึ้น หากจะกลับไปที่เก่าทั้งหมดมันก็มีปัญหา

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงจดหมายฉบับที่ 5 ของ พล.อ.ประวิตร นั้น ว่า ตนได้อ่านแล้ว ไม่เห็นเป็นอะไร ใครจะเขียนก็เขียนได้ทั้งนั้น ก็คิดเอาเองแล้วกัน 

เมื่อถามย้ำว่า จดหมายฉบับดังกล่าวพยายามย้อนไปถึงอดีตเกี่ยวกับการรัฐประหารและอำนาจนิยมนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามกลับว่า เรื่องมันตั้งแต่ปีไหนมาแล้ว และผมมายืนอยู่ตรงนี้ มายืนด้วยอะไร รัฐธรรมนูญไม่ใช่หรือ ด้วยระบบรัฐสภาไม่ใช่หรือ และช่วงก่อนหน้านั้น ผมก็จำเป็นต้องพูดว่ามันเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ลองดูซิว่าถ้ามันไม่มีอะไรที่ทำให้ความขัดแย้งลดลงมันจะเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ เราจะยืมแบบนี้อยู่หรือเปล่าได้ก็ไม่รู้

เมื่อถามว่า บรรยากาศในวันนี้ไม่มีอะไรที่จะทำให้กลับเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมไม่เห็นจะมีอะไรเลย แต่ประชาชนทุกคนก็ต้องคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นมาแล้ว ทุกอย่างจะพัฒนาได้ประเทศต้องสงบเรียบร้อย อย่ากลับไปที่เดิมอีกเลย

เมื่อถามต่อว่า พล.อ.ประวิตร ได้มีการเขียนบันทึกถึงเรื่องรัฐประหาร 2-3 ครั้งมาแล้วนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ก็แล้วแต่ท่าน

เมื่อถามว่า เขาบอกกันว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้กลับมา รัฐประหารก็จะเกิดขึ้นอีก พล.อ.ประยุทธ์ จึงย้อนถามกลับว่า ใครจะรัฐประหาร ใครจะทำ ผมถามหน่อย

เมื่อถามต่ออีกว่า มองว่าประเทศไทยควรจะมีรัฐประหารอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า "ผมเคยพูดไปตั้งนานแล้วว่ามันครั้งสุดท้ายแล้ว มันไม่ควรจะมีอะไรได้อีกแล้ว มันอยู่ที่พวกเรานั่นแหละจะช่วยกันได้อย่างไร ถ้าขัดแย้งกัน รุนแรงกัน ผมก็ไม่รู้มันจะแก้ไขปัญหาด้วยอะไรไม่รู้ เพราะผมไม่เกี่ยวแล้ว"

เมื่อถามว่า แสดงว่าหลังจากนี้เราก็พร้อมเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามกลับว่า แล้ววันนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยหรือ ก็ประชาธิปไตยไง ทุกคนก็ต้องพยายามรักษากติกาซิจ๊ะ

เมื่อถามต่อว่า การพูดถึงการรัฐประหารในช่วงการเลือกตั้งถือเป็นการดิสเครดิตนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า คุณก็ถามแบบนี้อยู่แล้ว ก็แน่นอน มันก็ต้องดิสเครดิตเราแน่นอน อธิบายชี้แจงไปหลายครั้งแล้วคิดเอาเองแล้วกัน

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ดูเปลี่ยนไปหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็เป็นพี่ผมเหมือนเดิม 

เมื่อถามต่อว่า หมายถึงการสื่อสารทางการเมือง นายกฯ ระบุว่า "ก็มีคนช่วยท่านเยอะอยู่แล้วนิ" 

เมื่อถามย้ำว่าไม่ใช่มาจาก พล.อ.ประวิตร แต่มาจากคนรอบข้างใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ อมยิ้ม ก่อนตอบว่า ไม่รู้สิ ผมไม่ทราบ พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ทราบว่าเวิร์ดดิ้งเป็นคำจาก พล.อ.ประวิตร หรือไม่

ส่วนกรณีที่วันนี้ เศรษฐา ทวีสิน เปิดหน้าลงเล่นการเมืองอย่างเต็มตัวถือเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลหรือไม่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมไม่ได้ไปแข่งอะไรกับท่านนะ ที่ผมพูดวันนั้นอยากให้มองภาพใหญ่ว่ารัฐบาลทำอย่างนี้ ทุกคนเก่งหมดแหละ หลายคนอาจจะมองว่าผมไม่มีความรู้ทางเศรษฐกิจ แต่ผมอยู่มาหลายปีแล้ว ผมก็ศึกษาและก็มีคนเก่งอยู่ตั้งเยอะแยะเป็นร้อย 

เมื่อถามว่า ขณะนี้ที่อยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มองว่าพรรคไหนเป็นคู่แข่งของนายกโดยตรง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน ทุกพรรคแหละมั้ง ทุกพรรคก็แข่งกันหมดนิ 

ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร ชูจุดขายเรื่องกว้างข้ามความขัดแย้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามกลับว่า วันนี้ขัดแย้งตรงไหน ผมไม่เห็นจะมีขั้วอะไร 

เมื่อถามว่าก็ขั้วอนุรักษ์นิยม นายกฯ จึงตอบกลับว่า คิดกันเองทั้งนั้น อย่าสร้างความสับสนอลหม่านมากนักเลย ใครพูดอะไรมาก็ขยายมันก็มีแต่เรื่องนั่นแหละ และผมก็จะไม่พูดอะไรเรื่องพรุ่งนี้แล้ว จบแล้วก็จบไปแล้ว ของเก่าก็คือของเก่า วันนี้ต้องเดินหน้าประเทศไปท่ามกลางความสงบสุขไม่ดีกว่าหรือ ที่ผ่านมาผมก็คิดแบบนี้มาตลอด

เมื่อถามว่า ท่านก็สามารถนำก้าวข้ามความขัดแย้งได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ความขัดแย้งมันไม่มีนิตรงนี้ มันอยู่ตรงไหนอ่ะ ผมไม่เห็นมีใครมีความขัดแย้งกันทั้งสิ้น แต่ถ้าเป็นความเห็นต่างเราเข้าใจ เพราะความขัดแย้งมันต้องต่อยดีกัน หรือทำอะไรสัดอย่าง เพราะหลายปีมันก็เกิดมาขึ้นมาแล้ว ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก

เมื่อถามว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ พยามที่จะสู้ในกติกา แต่ก็มีคนพยามลากออกนอกกติกาใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องอะไรจะให้เขาลากผมออกไป ผมก็อยู่ในกติกาของผมและกติกาประชาธิปไตย วันนี้ต่างประเทศประเมินมาไทยอันดับก็ขึ้นในเรื่องของประชาธิปไตย แล้วจะมาบอกว่าเราไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน 

หลังจากนั้นนายกฯ ก็เดินออกนอกวงสัมภาษณ์ และเดินไปจับดอกแก้วที่อยู่บริเวณนั้น ก่อนที่จะโน้มตัวลงไปดม

ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ต้องมีการให้ยาฆ่าเชื้อที่มือแล้วหรือไม่ เนื่องจากพบว่าไม่มีการคาเข็มน้ำเกลือไว้ที่มือซ้ายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ให้ทุกวันน่ะ และ

เมื่อถามย้ำว่า การหาเสียงจะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำมือไว้ที่อกซ้ายไปแล้ว ระบุว่า ใช้ใจไป 

ในช่วงท้ายอาจมีการถามว่าไม่ต้องมีการให้ยาฆ่าเชื้อแล้วหรือไม่เนื่องจากพบว่าไม่มีการคาเข็มน้ำเกลือไว้ที่มือซ้ายแล้วพล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ให้ทุกวันน่ะ และเมื่อถามย้ำว่า การหาเสียงจะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำมือไว้ที่อกซ้ายไปแล้วระบุว่า ใช้ใจไป