เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติกล่าวหาอับบาส ว่าเป็นพวก "ลัทธิต่อต้านยิวโดยบริสุทธิ์" ในขณะที่คณะผู้แทนของเยอรมนีในรอมัลลอฮ์ เมืองหลวงโดยพฤตินัยของปาเลสไตน์กล่าวว่า “ประวัติศาสตร์ชัดเจน… ชีวิตนับล้านถูกลบล้างไป สิ่งนี้ไม่สามารถสร้างใหม่ได้" พร้อมกล่าวเสริมว่า “เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความทรงจำที่ให้เกียรติและแม่นยำต่อเหยื่อ”
นอกจากนี้ สเตฟเฟน ไซเบิร์ต เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำอิสราเอล กล่าวเสริมว่า “ชาวปาเลสไตน์สมควรที่จะได้ยินความจริงทางประวัติศาสตร์จากผู้นำของพวกเขา ไม่ใช่การบิดเบือนเช่นนั้น”
ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกระทั่งนาซีเยอรมนีพ่ายแพ้ต่อสงคราม ฮิตเลอร์ได้ใช้ชาวยิวเป็นแพะรับบาปในเยอรมนี ด้วยการกล่าวหาว่าชาวยิวมีบทบาทที่ทำให้เยอรมนีอ่อนแอลง จากการเป็นผู้ปล่อยเงินกู้และคอยกัดกินเศรษฐกิจของชาวเยอรมัน ฮิตเลอร์ยังกล่าวหาว่าชนชาวยิวเป็นเผ่าพันธุ์ที่ด้อยกว่า ซึ่งต้องกำจัดทิ้ง นำมาสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวโดยนาซีเยอรมนี
ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ ซึ่งปัจจุบันอายุ 87 ปี เคยถูกกลุ่มชาวยิวประณามว่าเป็นผู้ปฏิเสธการมีอยู่ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เนื่องจากวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกของอับบาส มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับนาซีและขบวนการไซออนิสต์ หรือลัทธิยิวในการยึดเอาปาเลสไตน์เป็นของยิว นอกจากนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อับบาสยังได้กล่าวสุนทรพจน์ เพื่ออธิบายมุมมองที่ไม่เหมาะสมของเขาอยู่บ่อยครั้ง
ในคำปราศรัยของอับบาสต่อสภาปฏิวัติฟาตาห์ที่มีขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว และออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ปาเลสไตน์ในเวลาต่อมา ก่อนได้รับการเผยแพร่โดยกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลบนแพลตฟอร์ม X ชี้ว่า ประธานาธิบดีปาเลสไตน์กล่าวว่า “พวกเขาบอกว่าฮิตเลอร์ฆ่าชาวยิวเพราะเป็นยิว และยุโรปเกลียดชาวยิวเพราะพวกเขาเป็นยิว ไม่ มีการอธิบายอย่างชัดเจนว่าพวกเขา (นาซี) ต่อสู้กับพวกเขา (ยิว) เพราะบทบาททางสังคมของพวกเขา ไม่ใช่ศาสนาของพวกเขา (ยิว)” อับบาสกล่าว พร้อมระบุว่าบทบาทของชาวยิว ที่เป็นต้นเหตุของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยนาซี เกี่ยวข้องกับ "ดอกเบี้ย เงิน และอื่นๆ"
อับบาสยังได้รื้อฟื้นทฤษฎีประวัติศาสตร์ ที่ถูกปฏิเสธไปแล้วอย่างยาวนานว่า ชาวยิวอัชเกนัซยุโรปไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากชาวอิสราเอลโบราณ แต่เป็นชาวคาซาร์ ซึ่งเป็นชนเผ่าเติร์กเร่ร่อน ที่กำเนิดขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 8 และเปลี่ยนมานับถือศาสนายิว “ความจริงที่เราควรเผยแพร่ไปทั่วโลกก็คือ ชาวยิวในยุโรปไม่ใช่ชาวเซมิติก พวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธิยิว” อับบาสกล่าว “สำหรับชาวยิวตะวันออก พวกเขาคือชาวเซมิติก” อับบาสกล่าวเสริม โดยระบุถึงชาวยิวเซฟาร์ดีจากพื้นที่ตะวันออกกลาง
ก่อนหน้านี้ อับบาสได้สร้างความไม่พอใจให้กับนานาชาติ หลังจากเขามีคำพูดที่คล้ายกันเมื่อปี 2561 ด้วยการอ้างว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็น "บทเรียนประวัติศาสตร์" ในการประชุมสภาแห่งชาติปาเลสไตน์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยอับบาสมีเป้าหมายที่ต้องการจะโต้แย้งความเชื่อมโยง ระหว่างชาวยิวกับอิสราเอลยุคปัจจุบัน สิทธิในที่ดิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ และความเกี่ยวพันกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของทั้งสองชนชาติ
“นี่คือโฉมหน้าที่แท้จริงของ 'ผู้นำ' ชาวปาเลสไตน์ เช่นเดียวกับที่อับบาสกล่าวโทษชาวยิวว่าเป็นต้นเหตุการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เขายังกล่าวโทษชาวยิวสำหรับปัญหาทั้งหมดของตะวันออกกลางด้วย” กิลาด เออร์ดัน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ ประณามความเห็นของอับบาส “โลกต้องตื่นขึ้นและนำตัวอับบาสและเจ้าหน้าที่ชาวปาเลสไตน์ของเขา มารับผิดชอบต่อความเกลียดชังที่พวกเขาพ่นออกมา และการนองเลือดที่ตามมา จะต้องไม่มีการอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ และการก่อความหวาดกลัวของชาวปาเลสไตน์!”
สหภาพยุโรปยังประณามคำปราศรัยดังกล่าว โดยชี้ว่าคำกล่าวของอับบาสนั้น “เป็นเท็จและทำให้เข้าใจผิดอย่างร้ายแรง” นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของสหภาพยุโรประบุว่า "การบิดเบือนประวัติศาสตร์ดังกล่าวเป็นการกระตุ้นโทสะ น่ารังเกียจอย่างลึกซึ้ง สามารถทำให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาคที่รุนแรงขึ้นเท่านั้น และไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลย สิ่งเหล่านี้เล่นอยู่ในมือของผู้ที่ไม่ต้องการวิธีแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ซึ่งประธานาธิบดีอับบาสได้สนับสนุนมาหลายครั้งแล้ว… ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังทำให้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นเรื่องไร้สาระ และกระตุ้นให้เกิดการต่อต้านยิว และเป็นการดูหมิ่นเหยื่อหลายล้านคนของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และครอบครัวของพวกเขา”
เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา อับบาสถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเปรียบเทียบอิสราเอลกับนาซีเยอรมนี ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่สหประชาชาติ โดยเขากล่าวหาอิสราเอลว่าโกหก "เหมือนกับเกิบเบลส์" ซึ่งหมายถึง โจเซฟ เกิบเบลส์ หัวหน้าฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของพรรคนาซี นอกจากนี้เมื่อปีที่แล้ว อับบาสยังได้สร้างความไม่พอใจในระดับนานาชาติ หลังจากที่เขาอ้างว่าอิสราเอลก่อ "การสังหารหมู่ 50 ครั้ง และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 50 ครั้ง" ในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับ โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีในกรุงเบอร์ลิน โดยนายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวในเวลาต่อมาว่า เขา "รู้สึกรังเกียจกับคำพูดที่น่ารังเกียจนี้" และอิสราเอลและสหรัฐฯ ยังได้ออกแถลงการณ์ประณามคำพูดของอับบาสอย่างรุนแรง
หลังจากนั้น ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ได้ออกคำชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ผ่านทางสำนักข่าว Wafa ของทางการของปาเลสไตน์ โดยอับบาสไม่ได้กล่าวขอโทษอย่างชัดเจน แต่เขากล่าวว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็น "อาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์สมัยใหม่" และความคิดเห็นของเขาไม่ได้มีจุดมุ่งหมาย "เพื่อปฏิเสธความแปลกประหลาดของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"
ที่มา: