ที่สโมสรราชพฤกษ์ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าพบ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอคำแนะนำในการทำงาน ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.) จะเดินทางเข้าพบ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในสมัยรัฐบาลทักษิณ เช่นกัน
โดย สุทิน เผยว่า วันนี้ตนมาพบ พล.อ.เชษฐา ก็เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ของกองทัพ ซึ่งท่านได้ให้กำลังใจและเชื่อมั่นว่าตนจะทำหน้าที่ได้ ท่านบอกว่าความเป็นพลเรือนไม่ใช่อุปสรรค หากเราสนใจที่จะหาความรู้ และทำความเข้าใจกองทัพ ก็เชื่อมั่นว่าจะทำได้ โดยสิ่งที่เห็นตรงกัน คือ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน และการแสดงเจตนาให้ชัดเจนว่า ต้องการมาทำประโยชน์ให้กับกองทัพ ไม่ใช่ทำเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่าภายในการหารือวันนี้มีประเด็นสำคัญที่ต้องผลักดัน เช่น การเกณฑ์ทหาร และการปรับลดกำลังพลหรือไม่ สุทิน บอกว่า ไม่ได้นำเรียนในรายละเอียด เพียงแต่ขอให้ท่านให้คำแนะนำกว้างๆ ตามที่กล่าวไปข้างต้น เมื่อถามว่ามีการเตือนให้ระวังเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ สุทิน บอกว่า ไม่มี
ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 11 ก.ย. นี้ ซึ่งรัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ขอให้ร่วมติดตามรายละเอียดว่าในส่วนของกระทรวงกลาโหมจะมีประเด็นใดบ้าง โดย สุทิน ยืนยันว่า นโยบายทั้งหมดที่จะนำเสนอถูกจัดทำ ออกมาเป็นเล่มเรียบร้อยแล้ว มีเนื้อหาค่อนข้างเยอะ
“นโยบายที่พรรคอื่นบอกว่า เป็นการปฏิรูปกองทัพ แต่ของเราท่านนายกฯ บอกว่า ร่วมกันพัฒนากองทัพ ซึ่งจะมีการพัฒนาแนวทางไหนอย่างไร ให้รอดูการแถลงต่อรัฐสภา” สุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.เชษฐา ได้ให้คำแนะนำถึงวิธีการรับมือกับทหารที่ “เกเร” บ้างหรือไม่ สุทิน ตอบว่า ไม่ได้บอก แต่ข้าราชการทุกกระทรวงย่อมมีทั้งคนดีและคนเกเร แต่ส่วนตัว ไม่หนักใจ เพราะทำงานร่วมกับคนได้ทุกประเภท และพยายามส่งเสริมคนดีให้ทำงาน และคนดีก็จะช่วยป้องกันคนไม่ดี
นอกจากนี้ สุทิน ยังกล่าวถึงการปรับตัวในฐานะรัฐมนตรีด้วย โดยยอมรับว่า ชีวิตก็เปลี่ยน ขาดความเป็นอิสระไปเยอะ เมื่อเช้ามีคนมารออยู่หน้าบ้าน ก็ยังไม่ชิน โดยธรรมดาเป็นคนง่ายๆ แต่เมื่อมาอยู่ในกองทัพ เป็นธรรมเนียมและความรับผิดชอบ ก็ต้องปรับตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากการเดินสายเข้าพบอดีตข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่แล้ว จะมีการเข้าหารือกับพลเรือนที่มีประสบการณ์ในการคุมกระทรวงกลาโหม อย่าง ชวน หลีกภัย หรือไม่ สุทิน กล่าวว่า มีหลายส่วนที่ยังไม่ได้เปิดเผยมาก่อน ซึ่งตนได้โทรศัพท์หารือกับบุคคลที่เคยคุมกระทรวงกลาโหมมาโดยตลอด โดยเฉพาะ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ให้คำแนะนำคล้ายกันกับทุกคนว่า หากบุคลิกของเราไม่กร่างหรือก้าวร้าว ย่อมไม่มีปัญหา เพราะทหารเขาเป็นคนมีวินัย
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรเวลามีคนเรียกว่า “บิ๊กทิน” สุทิน ตอบว่า ยังไม่ชิน เพราะทุกครั้งที่ได้ยินก็ขนลุกทุกครั้ง รู้สึกคล้ายกับเวลาเรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่า “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”
ส่วนกระแสข่าวเรื่องการแต่งตั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และอดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก มาดำรงตำแหน่งเลขาฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น สุทิน บอกว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยกันกับหลายคน ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าใครเหมาะสมจะอยู่ตำแหน่งใด โดยคาดว่าจะมีความลงตัวหลังเข้ากระทรวงประมาณ 1 สัปดาห์
เมื่อถามถึงความมั่นใจในการพัฒนากองทัพภายใต้การนำของตนเอง สุทิน กล่าวว่า โดยตัวของกองทัพเอง ก็มีการพัฒนาอยู่แล้ว ไม่ได้มองว่ากองทัพอยู่กับที่ เราเพียงแค่ใช้อำนาจทางการเมืองไปสนับสนุน
ในตอนท้าย สุทิน เปิดเผยด้วยว่า ในสัปดาห์หน้า จะมีโอกาสได้พบกับกำลังพลอีกระดับหนึ่งซึ่งมีส่วนสำคัญกับการทำงานในกองทัพ และยอมรับว่าการพบพลทหารที่มีความแตกต่างระหว่างวัย ทำให้เห็นว่า ทหารหนุ่มในวันนี้ เป็นคนรุ่นใหม่ มีวิธีคิดใหม่ๆ โดยเฉพาะผู้บัญชาการเหล่าทัพ ด้านผู้สื่อข่าวถามทิ้งท้ายว่ากังวลเรื่อง “ทหารสีส้ม” หรือไม่ สุทิน ตอบสั้นๆว่า ไม่