ไม่พบผลการค้นหา
เปิดลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของ ปี 64 แล้ว สำหรับผู้สูงอายุรายใหม่ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยรัฐบาลโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เปิดรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประจำปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่เดือนต.ค. – พ.ย. 2563 และเดือน ม.ค. – ก.ย. 2564 สำหรับผู้สูงอายุรายใหม่ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้ว และผู้สูงอายุที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2565   

สำหรับเอกสารหลักฐานประกอบแบบคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้แก่ 1) บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย 2) ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน 3) สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร กรณีขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร โดยวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนี้ 1) รับเงินสดด้วยตนเอง 2) รับเงินสดโดยบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ 3) โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ 4) โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ

ทั้งนี้ สามารถยื่นคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้

สำหรับการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2554 เห็นชอบจัดให้มีเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ

  • อายุ 60 - 69 ปี จะได้รับ 600 บาท
  • อายุ 70 - 79 ปี จะได้รับ 700 บาท
  • อายุ 80 - 89 ปี จะได้รับ 800 บาท
  • อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท 

ทั้งนี้ เป็นการสร้างหลักประกันด้านรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุ ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณโครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ ให้กับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย รวม 66,016,930,800 บาท เพื่อจ่ายเป็นเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุรวมทั้งสิ้น 8,296,573 คน โดยไม่รวมเทศบาลนครและเทศบาลเมือง จำนวน 214 แห่ง ที่เป็นหน่วยรับงบประมาณตรง