เวลา 13.00 น. กิจกรรมเปิดพื้นที่ซื้อขายกุ้งของกลุ่ม We Volunteer หรือ วีโว่ บริเวณแยกคอกวัว หน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยขายกุ้งกิโลกรัมละ 359 บาท และมีประชาชนจำนวนมากต่อแถวซื้อกุ้ง นอกจากนี้ยังเปิดขายออนไลน์ โดยคิดค่าส่งตามระยะทาง
ต่อมาเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้เข้ามากระชับพื้นที่ ตั้งแนวตั้งแต่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และแยกคอกวัว ก่อนจะตีวงล้อมปิดหัวท้าย และไล่จับชุดการ์ด ที่นำแผงเหล็กมากั้นแนวตำรวจไว้ ทำให้กลุ่มวีโว่ต้องสลายตัว บางส่วนวิ่งหนีเข้าไปในซอยที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
จากนั้นตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ให้ผู้จัดยุติกิจกรรม และให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ประกอบกับเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากจะจัดงานต้องขออนุญาตผู้ว่าราชการจังหวัด
ต่อมาตำรวจได้ปิดล้อมรถที่บรรทุกกุ้งหนักประมาณ 3 ตัน ทำให้กิจกรรมต้องยุติลง ขณะเดียวกัน ประชาชนและกลุ่มที่มารอซื้อกุ้งได้แสดงความไม่พอใจที่ตำรวจขัดขวางการจัดกิจกรรม
ตัวแทนการ์ดวีโว่ ได้เจรจรา กับ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 รักษาราชการแทน ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม นานกว่า 30 นาที โดยตัวแทนการ์ดระบุว่า ตำรวจได้ให้ทางกลุ่มย้ายรถขายกุ้งออกนอกพื้นที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ซึ่งจากนี้ทางกลุ่มจะนำกุ้งไปน็อคน้ำแข็งที่บริเวณกองสลากเก่า ส่วนตำรวจจะยอมให้ขายต่อหรือไม่ คงต้องพูดคุยกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตนจะพยายามขายกุ้งที่นำมาจากเกษตรกรให้หมด
จากนั้น ทางตำรวจได้เข้าเคลียร์พื้นที่ และเปิดการจราจรถนนราชดำเนินบริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยมีประชาชนที่ไม่พอใจตะโกนด่าทอตำรวจ และไล่ให้ทำหน้าที่จับกุมคนที่ทำผิดกฎหมายมากกว่าจะมาขัดขวางการช่วยเหลือเกษตรกร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นประชาชนได้เปลี่ยนพื้นที่ขายกุ้งไปยังบริเวณหน้ากองสลากเก่า
ขณะที่ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เวลา 15.30 น. ที่ บก.ตชด.ภาค 1 มี ปชช.รวม 16 คนที่ถูกจับกุมจากกิจกรรมขายกุ้งเผาของกลุ่ม We Volunteer โดย 12 คนถูกจับกุมที่สนามหลวง และอีก 4 คนที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ และใน 16 คนนี้มีเยาวชน 2 คน ขณะนี้ จนท.กำลังเริ่มทำบันทึกจับกุม
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้รวบรวมรายชื่อกลุ่มวีโว่ที่ถูกจับกุมทั้งหมด 16 คน นำตัวส่งพนักงานสอบสวนที่ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1
แบ่งเป็นจับกุมบริเวณสนามหลวง จำนวน 12 คน
1.นายปิยรัฐ จงเทพ อายุ 30 ปี
2.นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี 2 เดือน
3.นายบี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี
4.นายซี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี
5.นายดี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี
6.นายกีรติ ผลมะตาด อายุ 22 ปี
7.นายสุชาติ จั่นแก้ว อายุ 21 ปี
8.นายธัช ภาณุศิริ อายุ 32 ปี
9.นายทองนพเก้า ใจไทย อายุ 20 ปี
10.นายศุภสิริ ชัยลีย์ อายุ 33 ปี
11.นายณัฐพงษ์ คำจันทร์ อายุ 29 ปี
12.นายณัฐพงษ์ มะลิซ้อน อายุ 23 ปี
และจับกุม บริเวณข้างอนุสรณ์ 14 ตุลา จำนวน 4 คน
1.นายหัสดินทร์ ไกรโสภา อายุ 32 ปี
2.นายเอฟ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี
3.นายจี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี
4.นายมงคล สมอบ้าน อายุ 32 ปี
โดยแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดว่า
1.ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย, ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค
2.กระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป
3.ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 มาตรา 4 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 200 บาท
ขณะที่เวลาประมาณ 16.00 น. แฮชแท็ก #ม๊อบย่างกุ้ง ติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ด้วยจำนวน 3 แสนกว่าทวิต โดยแฮชแท็กดังกล่าวมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าจับกุมกลุ่มการ์ดอาสา We Volunteer
รังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นเรื่องที่น่าละอายที่เจ้าหน้าที่ไล่จับกุมประชาชนขายกุ้ง พร้อมตั้งคำถามว่าเจ้าของตำรวจหรือใครกันแน่
"การมาจับประชาชนที่มาจัดกิจกรรมขายกุ้งกันแล้วอ้างว่าเพราะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ มันน่าละอายมากๆ
"ที่ประชาชนต้องออกมาขายกุ้งกันเอง ก็เพราะ รบ และตำรวจหย่อนยานในหน้าที่จนปล่อยให้โควิดระบาดได้อีกครั้ง แค่นั้นยังไม่หนำใจ พวกคุณยังจะมาขัดขวางพวกเขาไม่ให้ช่วยกันเองอีก
"เจ้าของตำรวจคือใครกันแน่ ? ผมเคยนึกว่าคือประชาชน"