ไม่พบผลการค้นหา
'ปิยบุตร' ย้อนเกล็ด 'พล.ต.บุรินทร์' เรียกมาให้ข้อมูล กมธ.กฎหมายฯ หลังมีคนร้องเรียนเพียบ เชื่อ รัฐบาลต้องการกลบข่าวขาลง - จุดกระแสแก้รัฐธรรมนูญ ยังเดินหน้าต่อ เผย 'ธนาธร' หัวเราะ หลังเห็นชื่อคนแจ้งความ

4 ต.ค. 2562 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กอรมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับแกนนำพรรคฝ่ายค้านและนักวิชากร จำนวน 12 คน ว่าการฟ้องรว่าพอตนเห็นชื่อของ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ เป็นคนแจ้งความพร้อมข้อหาเดิม อย่าง มาตรา 116 ก็คิดได้ทันทีว่าเรื่องแบบนี้ยังมีอยู่ต่อเนื่อง ทั้งที่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา นายทหารคนนี้ก็ใช้ช่องทางตามกฎหมายต่างๆ เพื่อไปแจ้งความคนเห็นต่าง ฐาน ยุยงปลุกปั่น ตามม.116 บ้าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ บ้าง สุดท้าย บางเรื่องอัยการก็ไม่สั่งฟ้อง หรือ ศาลสั่งยกฟ้อง แต่ตัว พล.ต.บุรินทร์ ยังคงทำแบบนี้อยู่ต่อไป ซึงกลไกล anti-slap หรือวิธีการใช้วิธีการดำเนินคดีเพื่อปิดปากคนเห็นต่าง ที่ต้องการแสดงความคิดเห็น

“ผมในฐานะ ประธาน กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ตอนนี้มีคนหลายคนทำหนังสือร้องเรียนเข้ามา เกี่ยวกับกรณีที่นายทหารของ คสช.เที่ยวไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลจำนวนมาก จนพวกเขาเสียเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และทำให้เสียเวลาในการขึ้นศาล หากเรื่องนี้บรรจุเข้าระเบียบวาระ คงต้องมีการเรียก พล.ต.บุรินทร์มาชี้แจงต่อ กมธ.ชุดนี้ ว่าท่านอ่านกฎหมายอย่างไร ดูองค์ประกอบความผิด ตามมาตรา116 อย่างไร ทำไมถึงเที่ยวไปแจ้งความเต็มไปหมด สุดท้ายทั้งอัยการก็ไม่ฟ้อง ศาลก็ยกฟ้อง แต่ตัวท่านกลับได้ดิบได้ดีขึ้นเป็น พลตรีจนถึงวันนี้ ” เลขาธิการอนาคตใหม่ระบุ

เมื่อถามว่า เป็นการปิดกั้นเรื่อง การแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ นายปิยบุตรกล่าวว่า มีสาเหตุสำคัญ 2 ประการได้แก่ 1.ต้องการกลบเกลื่อนช่วงขาลงของรัฐบาลชุดนี้ บังเอิญขาลงมันมาเร็วผิดปกติ หลังเป็นรัฐบาลไม่กี่เดือนเท่านั้น ทั้งการบริหารงานที่ผิดพลาด การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ นโยบาย 'ชิม ช้อป ใช้' ที่ไม่ได้ผล ต่างๆนานา

2.กลบประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งตอนนี้ดูทีท่าว่าสังคมจะตอบรับมากขึ้น ทั้งพรรคฝ่ายรัฐบาล ส.ว.บางท่าน ตนอยากให้ทางกองทัพ ลองพิจารณาให้ดีว่า ท้ายที่สุดแล้วใครกันแน่ที่เป็นคนขวางการเดินหน้าของประเทศชาติ และการหาฉันทามติใหม่ในการทำรัฐธรรมนูญ ขณะที่บทบาทของ กอรมน.ที่เป็นมรดกตกทอดจากการรัฐประหารตั้งแต่ปี 2549 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กอรมน.ไม่ต่างอะไรกับการสืบทอดอำนาจของคสช.

“ปัญหาคือเราเป็นพรรคฝ่ายค้าน เมื่อถูกร้องทุกข์กล่าวโทษก็ว่าไปตามกระบวนการ แต่เราเองยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากสภาเปิดเราก็อยากถามไปถึงนายกรัฐมนตรี ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรในการดำเนินการเรื่องนี้” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่กล่าสและว่า “กฎหมายเป็นเครื่องสำคัญในการประกินสิทธิเสรีภาพของราษฎร และจำกัดอำนาจรัฐ ต้องไม่ใช่เครื่องมือของผู้มีอำนาจในการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นของบุคคล”

นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า ยืนยันว่าจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป โดยสิ่งที่เราฝันถึงคือ โมเดลของรัฐธรรมนูญ 2540 เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งเลือก สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับ ภายใต้กรอบเงื่อนไข ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ภายใต้รูปของรัฐราชอาณาจักร เป็นรัฐเดี่ยว อย่าวให้สังคมมองว่า การพยายามแก้รัฐธรรมนูญตามกระบวนการที่ท่านออกแบบกันมา มีอุปสรรคเหลือเกิน แต่พอเป็นพวกท่านกลับไม่แยแสรัฐธรรมนูญ ท่านถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบก็ได้ เหมือนไม่มีอะไรขึ้น หรือการที่ท่านฉีกรัฐธรรมนูญมาแล้ว แต่ไม่ต้องรับโทษ

เมือถามว่าได้คุยกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หรือยัง นายปิยบุตร กล่าวว่า คุยแล้ว เจ้าตัวกำลังใจดี ได้ยินเรื่องนี้ก็หัวเราะ เขาบอกตนว่า เห็นชื่อนายพลคนนี้ไปแจ้งความ พร้อมกับ ข้อหามาตรา 116 ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างล่าสุด อัยการก็สั่งไม่ฟ้องเรื่องที่ไลฟ์เฟซบุ๊กไม่กี่วันมานี้

ส่วนกรณีการแสดงความคิดเห็นของผศ.ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์ รองหัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่า จะเสนอให้ไทยเลิกเป็นราชอาณาจักร จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง นั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนคิดว่านักวิชาการมีเสรีภาพของการแสดงออกความคิดเห็น และถือเป็นการให้ความรู้ทางวิชาการ เป็นการเปิดจินตนาการใหม่ๆ แต่นักวิชาการไม่ได้มีกำลังหรืออาวุธไปทำอะไรได้ ตรงกันข้ามกองทัพต่างหาก ไม่ต้องพูดอะไร อยากจะยึดอำนาจก็ยึดเลย โดยไม่ต้องแสดงความคิดเห็นว่า ตัวเองอยากจะยึดอำนาจ อยากจะฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็ออกมายึดอำนาจ และนิรโทษกรรมตัวเอง และเป็นแบบนี้ทุกครั้ง

ในขณะเดียวกันพรรคการเมืองที่เข้าร่วมพูดบนเวที ก็มีความเห็นที่แตกต่างกันออกไป หลายคนก็มีความเห็นว่า จะจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ภายใต้กรอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีรูปของรัฐแบบราชอาณาจักร แบบรัฐเดี่ยว ตนคิดว่าหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เอง ก็ยืนยันว่าไม่มีใครพูดว่าต้องการเปลี่ยนแปลงหมวด 1 และหมวด 2

ข่าวที่เกี่ยวข้อง