ไม่พบผลการค้นหา
กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 หากได้สิทธิ์ โดยจะดูผลข้างเคียงของคนที่ฉีดไปแล้วก่อน พร้อมหวังการฉีดวัคซีนจะทำให้วิถีการดำเนินชีวิตกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ขณะพบส่วนใหญ่ ยังคงกังวลผลกระทบต่อภูมิต้านทาน และสุขภาพร่างกายหลังการฉีดวัคซีน

กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “คนไทยกับการฉีดวัคซีนโควิด 19” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,258 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 88% ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจว่าตนเองอยู่ในกลุ่มต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ในระยะใดตามนโยบายฉีดวัคซีน ขณะที่ 6.5% อยู่ในกลุ่มนโยบายระยะที่ 1 ก.พ.–พ.ค.2564 ใน 10 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และ 5.5% อยู่ในกลุ่มนโยบายระยะที่ 2 มิ.ย.–ธ.ค. 2564

เมื่อถามว่าหากได้สิทธิ์ในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ท่านจะฉีดหรือไม่ ส่วนใหญ่ 68.7% คิดว่าจะฉีด โดยในจำนวนนี้ 54.1% จะดูผลข้างเคียงของคนที่ฉีดไปแล้วก่อน ส่วน 14.6% จะฉีดทันทีเพราะกลัวติดโควิด–19 ขณะที่ 31.3% คิดว่าจะไม่ฉีด โดยในจำนวนนี้ 16.8% ให้เหตุผลว่ากลัวมีผลข้างเคียงต่อร่างกาย และ 14.5% คิดว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยงที่จะติด

ส่วนความกังวลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 พบว่าส่วนใหญ่ 69.1% กังวลว่าผลกระทบหลังการรับวัคซีนต่อภูมิต้านทาน และสุขภาพร่างกาย รองลงมา 42.8% กังวลว่าวัคซีนผ่านมาตรฐานการรับรองหรือไม่ ปลอดภัยหรือไม่ และ 27.2% กังวลว่าราคา ค่าใช้จ่ายแพงในการฉีดวัคซีน หากไม่มีการควบคุมจากภาครัฐ

สำหรับความหวังหลังจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยพบว่า ประชาชน 47.9% หวังว่าวิถีการดำเนินชีวิตประชาชนจะกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว รองลงมา 22.5% หวังว่าจะช่วยปกป้อง/สร้างภูมิคุ้มกัน ให้ประชาชน และ 18.8% หวังว่าจะเกิดการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจให้ปกติ เร็วที่สุด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง