วันที่ 2 ส.ค. สำนักข่าวมติชน รายงานว่า เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดต่อเนื่องหลายจุด เริ่มจากเวลา 07.05 น. เจ้าหน้าที่ สน.ทุ่งสองห้อง ได้รับแจ้งเหตุระเบิดที่บริเวณสวนหย่อมหน้าศูนย์ราชการ อาคาร บี แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เบื้องต้นตรวจสอบพบจุดระเบิดเป็นสวนหย่อมหน้าอาคาร มีเศษซากต้นไม้กระจายอยู่ มีหลุมในสวนหย่อม เจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่ไว้แล้ว ระหว่างที่ทาง สน.ทุ่งสองห้องเข้าตรวจสอบ เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งที่จุดตรงข้ามกับจุดที่ระเบิดครั้งแรกเป็นสวนหย่อมเช่นกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกั้นพื้นที่ให้กว้างขึ้น แล้วประสานไปยังอีโอดี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบว่าเป็นระเบิดประเภทใด ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นอกจากนี้ ยังเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดอีกครั้งที่หน้าอาคารมหานครใกล้บีทีเอสช่องนนทรี และพงหญ้าใต้บันไดบีทีเอส เศษดินกระจายเต็มทางเท้า เจ้าหน้าที่ตำรวจกันพื้นที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยมีรายงานว่า สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสปิดประตูทางออก 2 กับ 4 แล้ว
นอกจากนี้ยังพบเสียงดัง ลักษณะลูกกลมๆ คล้ายระเบิดปิงปอง โดยจุดเกิดเหตุภายในซอยพระราม 9 แยก 57/1 ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดเขตสวนหลวงบาดเจ็บ 2 คน
"ประวิตร" เชื่อเหตุป่วนระเบิด กทม.เช้านี้ เป็นการสร้างสถานการณ์ ขอเวลา จนท.ทำงาน
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้ง 4 จุด เช้าวันนี้ ว่าขณะนี้ ยังไม่มีเรื่องเพิ่มเติมเข้ามา ว่าทำคนเดียวหรือสองคน หรือเป็นพวกอื่น
โดยพล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์ แต่เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะเช่นนี้ เป็นเพราะไม่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่นั้น พลเอกประวิตร ระบุว่า ไม่ทราบ ว่าจะเกี่ยวข้องกับการไม่มี คสช.หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สามารถตรวจสอบได้เพียงแค่จุดเดียวคือ เหตุป่วนที่มีคนเอาวัตถุต้องสงสัย ไปวางไว้ที่ด้านหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ซึ่งสามารถจับกุม กลุ่มผู้ลงมือได้แล้ว 2 คน และกำลังสืบสวนสอบสวนอยู่ ขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการสอบสวนก่อน
ขณะที่มีรายงานเบื้องต้น ช่วงก่อน 10.33 น. เกิดเหตุระเบิดแล้ว 4 จุด ได้แก่
1. ระเบิดในซอยพระราม 9 57/1 คนบาดเจ็บเป็นคนกวาดถนน ที่ไปทำความสะอาดในซอย
2. ระเบิดใต้บีทีเอส ช่องนนทรีย์ 2 ครั้ง ไม่ชัดเจนว่ามีคนบาดเจ็บหรือไม่ แต่เห็นมีรถยนต์เสียหาย
3. มีเสียงระเบิด 2 ครั้ง แถวๆ คิงส์เพาเวอร์ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ
4. มีเสียงระเบิด 3 ครั้ง หน้าศูนย์ราชการ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ
12.20 น. ผู้ว่าฯ กทม.ตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ สั่งเชื่อมสัญญาณกล้องวงจรปิดทุกจุด
ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมสั่งตั้งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ มีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกทม. และตั้งทีมผู้บัญชาการเหตุการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เที่ยงวันนี้เป็นต้นไป โดยให้รายงานความคืบหน้าและการประสานงานด้านต่างๆ รวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสารเป็นระยะ นอกจากนี้มอบหมายสำนักการจราจรและขนส่งตรวจสอบและเชื่อมสัญญาณจากกล้อง CCTV ทุกจุด ให้พร้อมเรียกดูข้อมูลได้ตลอดเวลา
12.54 น. พบกล่องต้งสงสัยซุกบันไดเลื่อน BTS ศาลาแดง
เมื่อเวลาประมาณ 12.54 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดงว่า ระหว่างเดินตรวจตราพื้นที่ในช่วงเช้าประมาณ 10.00 น. ยังไม่พบวัตถุต้องสงสัยใด แต่หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง พบวัตถุต้องสงสัย ลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม ขนาดประมาณ 3x3 นิ้ว สีดำ วางอยู่ใต้บันไดเลื่อนทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังได้รับแจ้งก็ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี กองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว พร้อมปิดกั้นพื้นที่ในรัศมีความปลอดภัย และไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าอย่างเด็ดขาด
โดยจากการตรวจสอบแล้วพบเป็นเพียงกล่องเปล่าเท่านั้น
13.30 น. 'ศูนย์เอราวัณ' สรุปยอดคนเจ็บจากเหตุระเบิด 4 คน
ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) ได้รับรายงานเหตุเสียงดังคล้ายระเบิด บริเวณ 3 แห่ง โดยเหตุระเบิดบริเวณใต้สถานี BTS ช่องนนทรี ถนนนราธิวาสฯ มีรายงานผู้บาดเจ็บนำส่ง รพ. จุฬาลงกรณ์ และส่งต่อ รพ. วิภาราม 1 คน คือ นายชนะใจ เลาะหมุด มีแผลบริเวณเท้า แพทย์ให้นอนโรงพยาบาล
ส่วนที่บริเวณถนนพระรามเก้า ซอย 57/1 เบื้องต้นมีรายงานผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่เขตสวนหลวงนำส่งโรงพยาบาล รวม 3 คน ได้แก่ น.ส. คิสนา ผ่องใสดี อายุ 46 ปี มีแผลบริเวณใบหน้า วินิจฉัยอาการ กระจกตาถลอก แก้วหูทะลุ แพทย์ให้นอนโรงพยาบาล, นางสุนทร รอดเสียงล้ำ อายุ 55 ปีมีแผลบริเวณลำคอ เจ็บตา หูอื้อ วินิจฉัยอาการ กระจกตาถลอก แก้วหูทะลุ แพทย์ให้นอนโรงพยาบาล และน.ส. ศศินิภา เพชรทองหลาง มีอาการหูอื้อ วินิจฉัยอาการ แก้วหูทะลุ รับการตรวจรักษาและให้กลับบ้านได้
และที่บริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ไม่มีรายงานนำผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง