วันที่ 24 ม.ค. 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรค ศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย และผู้ประสงค์ลงสมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส. กทม. ประกอบด้วย เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เขตยานนาวา-บางคอแหลม ศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร เขตธนบุรี และ ขจรศักดิ์ ประดิษฐาน เขตห้วยขวาง-วังทองหลาง ให้การต้อนรับและรับมอบหนังสือจาก พิษณุวัฒน์ สิงห์ชัย ประธานเครือข่ายภาคประชาชน สำนักความคิด(ประเทศไทย) เครือข่ายลมใหม่ เพื่อเสนอนโยบายด้านอาชีพเพื่อสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่
พิษณุวัฒน์ กล่าวว่าภายหลังที่พรรคเพื่อไทยได้เปิดนโยบายเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันและเงินตอบแทนปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาทต่อเดือนแล้ว ทางกลุ่มภาคประชาชนที่ประกอบด้วยนักเรียน นักศึกษาสายอาชีพได้เล็งเห็นว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะเป็นพรรคที่ทำตามนโยบายได้จริง จึงได้รวบรวมคิดเป็นนโยบายมานำเสนอ ตั้งแต่นโยบายสายอาชีพมีรายได้ คือการส่งเสริมให้บริษัทเอกชนรับนักศึกษาระดับ ปวช. และ ปวส. เข้าฝึกงานจริงตามสายอาชีพ ให้เรียนไปทำงานไปมีรายได้ตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป การสนับสนุนสวัสดิการคนวัยเริ่มงาน ด้วยการอุดหนุนค่าอินเทอร์เน็ต รถเมล์ฟรี นอกจากนี้ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือแม้แต่ผู้สูงอายุควรได้โอกาสเข้าอบรมฝึกฝนทักษะใหม่ๆ ฟรีในสถาบันการศึกษาต่างอีกด้วย
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายด้านการศึกษาที่ได้ประกาศออกไปแล้วคือ ‘การมีรายได้ เรียนรู้ได้ ตลอดชีวิต’หรือ Lifelong Learning, Lifelong Earning โดยพรรคเพื่อไทยสนับสนุนให้นักเรียนนักศึกษาได้มีงานทำให้เร็วที่สุด ตรงกับสมรรถนะและความสามารถของตัวเองมากที่สุด เพื่อสร้างรายได้ดีที่สุดให้นักศึกษา
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่าข้อเสนอดังกล่าวหลายข้อช่วยเติมนโยบายของเรา เมื่อตนฟังข้อเสนอแล้วผมคิดต่อยอดเห็นภาพได้ทันทีเลยว่า อย่างสายอาชีพ ถ้าเราขอให้บริษัทเอกชนได้รับนักศึกษาได้เข้าไปทำงานจริง ฝึกงานจริง นอกจากนักศึกษาจะได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาฝึกงานได้ตรงสายอาชีพแล้ว ยังจะมีรายได้แม้จะไม่มาก แต่ก็ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง เพิ่มรายได้ให้นักศึกษา และรายจ่ายค่าจ้างส่วนนี้บริษัทเอกชนก็อาจจะนำไปหักหรือลดหย่อนภาษีประจำปีได้ จะเกิดประโยชน์ทั้งกับบริษัทและนักศึกษา โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของแผ่นดิน
“การปรับสายอาชีพให้สามารถเรียนและฝึกงานได้จริงตั้งแต่เรียน นอกจากจะสร้างโอกาสเพิ่มทักษะแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสรายได้ให้นักศึกษา รวมถึงช่วยเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อ ยกระดับแรงงานไทยให้เป็นแรงงานมีฝีมือเพิ่มโอกาสงานทั้งในตลาดงานไทยและตลาดงานโลก” นพ.ชลน่าน กล่าว
ด้าน ธีรรัตน์ กล่าวขอบคุณกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เชื่อมั่นในนโยบายของพรรคเพื่อไทย และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยสามารถทำได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น เราทุกคน ทั้งพรรคการเมือง ทั้งเครือข่ายประชาชนควรได้มีโอกาสคุยกัน ร่วมกันคิดร่วมกันทำ และเราทุกคนนี้ที่จะช่วยผลักดันทุกนโยบายให้เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งคนรุ่นใหม่ที่ช่วยกันคิดกันทำแบบนี้คือคนที่พรรคเพื่อไทยเราต้องการ