นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตผู้ต้องขังในคดีหมิ่นประมาทสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ผมได้ยินคำว่า อยู่เป็น กับ อยู่ไม่เป็น ตอนเข้ามาอยู่ในคุกราวปี 2555 น่าจะเป็นจุดกำเนิดของสองคำนี้ มันจึงมีความหมายของการทำตัวเยี่ยงนักโทษ ผู้ถูกจองจำด้วยเครื่องพันธนาการ ทั้งสองคำนี้จึงใช้อยู่ภายใต้สภาพการบังคับ สูญเสียอิสรภาพโดยสิ้นเชิง การอยู่เป็นแบบในคุกตะรางก็คือการไม่เอะอะ โวยวาย ต่อล้อต่อเถียงกับผู้คุมนักโทษหรือมีเรื่องกับนักเลงในคุก ไม่ก่อปัญหาจนเป็นเหตุให้ถูกทุบตี ทำร้ายร่างกายหรือถูกรังเกียจ ส่วนการอยู่ไม่เป็นก็ตรงกันข้าม เป็นพวกชอบสร้างปัญหา เกิดเป็นภัยต่อตัวเอง แล้วก็แก้ปัญหาไม่ได้ด้วย การอยู่ไม่เป็น มีทั้งที่มีเหตุผล มีความจำเป็นและที่ไม่มีเหตุผล ทำไปด้วยสัญชาติญาณดิบ ขาดการไตร่ตรอง รวมไปถึงพวกมีอาการทางจิตเวชในคุกเรียกอาการนี้ว่า รั่ว"
นายสมยศ ระบุว่า การอยู่เยี่ยงสัตว์ในคุกจึงมีการถ่ายทอด วิถีแห่งนักโทษให้อยู่เป็น ด้วยประโยคที่ว่า “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ไหว" คือยอมรับสภาพโดยสิ้นเชิงนั่นเอง คำนี้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย นำออกใช้ข้างนอกคุกจนอาจกลายเป็นวาทกรรมทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่
สองคำนี้ นำไปใช้เป็นคำติดลบมากกว่า อยู่เป็นคือสัตว์ที่ถูกขังอย่างไร้ทางสู้ จำต้องทำใจเยี่ยงสัตว์ รอวันปล่อยตัวออกมา อยู่ไม่เป็น คำนี้คือการขัดขืน แต่ทว่าเกิดผลร้ายกับตัวเอง ก็อาจเจ็บตัว โดยใช่เหตุ อยู่ไม่เป็นในคุก เกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายทั้งอาจถูกทุบตี ถูกรุมทำร้าย เป็นสัญชาติญาติดิบมากกว่า"
นายสมยศ ระบุว่า อยู่เป็นก็อาจเป็นความหมายในเชิงต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเป็นความหมายเดียวกับ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่บอกว่า ให้”สู้เป็น" จะดีกว่า คำนี้ชัดเจนและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากกว่า ซึ่งก็อาจเป็นความหมายเดียวกันกับ "อยู่เป็น" ได้เช่นกัน
"การอยู่ไม่เป็นอาจเป็นทางหายนะก็ได้นะครับ ด้วยความเป็นห่วงจริงๆ ที่จัดงานกันเมื่อวานก็สนุกดี แต่ความหมายของการอยู่ไม่เป็นอาจเป็นทางอันตรายหรือเป็นหนทางสู่ความหายนะของหมู่คณะได้ ใช้คำไหนดีปรึกษาคุณโบว์ (น.ส.ณัฏฐา) ผู้เชี่ยวชาญวิชาการสื่อสารก็จะดีนะครับ อย่าไปติดกับดักกับถ้อยคำประชดประชันทางการเมือง วางแผนการต่อสู้และเอาชนะด้วยวิธีทางเยี่ยงคนรุ่นใหม่ ที่เป็นความหวังของประเทศดีที่สุดครับ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง