ไม่พบผลการค้นหา
ปลัดกระทรวงพลังงาน สั่งสอบโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ 'อมก๋อย' และพื้นที่อื่นๆ หลังอนุมัติให้ กอ.รมน. 45 ล้าน ด้าน โฆษก กอ.รมน. ประกาศไม่ฟ้องกลับคนตรวจสอบโครงการใช้โซล่าเซลล์ แจงไม่แพง เพราะมีรายละเอียดทั้งการขนส่ง การติดตั้ง ลากสายขึ้นดอย

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. กุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวโครงการระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ในพื้นที่ อ..อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปี 2562 นั้น ขณะนี้ กระทรวงพลังงาน ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบโครงการดังกล่าว และโครงการอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน ครอบคลุมตั้งแต่การดำเนินการตรวจรับและส่งมอบให้กับหน่วยงานที่รับผิดในการบริหารจัดการ เพื่อร่วมบูรณาการแก้ไขให้โครงการต่างๆ สามารถดำเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนตามเป้าหมายโดยเร็วที่สุด 

กุลิศ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้รับรายงานจาก สำนักงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน(ส.กทอ.) ว่า ปัจจุบัน โครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่ดำเนินการโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 โครงการดังกล่าว ทาง กอ.รมน. ได้ส่งคำขอโครงการจำนวน 54,972,750 บาท ซึ่ง ส.กทอ. ได้พิจารณามาตรฐานราคาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และราคากลางจากบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ สำนักงบประมาณ ธ.ค. 2561 จึงได้อนุมัติงบประมาณที่ 45,205,000 บาท 

ส่วนสถานะโครงการในปัจจุบันนี้ ส.กทอ.แจ้งว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายงานจาก กอ.รมน.ว่าครบถ้วน ถูกต้องตามหนังสือยืนยันหรือไม่ และยังไม่มีการอนุมัติจ่ายงบประมาณงวดสุดท้ายจำนวน 18,082,000 บาท

“นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ส.กทอ.และพลังงานจังหวัดทุกจังหวัด มีการตรวจสอบการดำเนินโครงการในพื้นที่จริงอย่างเข้มงวด และตั้งแต่ปี 2564 จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทุกขั้นตอน หากมีการขอรับการสนับสนุนประเภทเดียวกันนี้ จะต้องมีแผนงานที่ชัดเจน มีความพร้อมในการบำรุงรักษา และประชาชนจะต้องใช้งานได้จริง  พร้อมทั้งต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดตั้งแต่ระบบตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผลในทุก ๆ โครงการ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่” ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว  


กอ.รมน.ไม่ฟ้องกลับคนตรวจสอบโครงการใช้โซล่าเซลล์

ด้าน พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ชี้แจงโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ว่า โครงการฯ มีงบประมาณ 45 ล้านบาท โดยขอรับการสนับสนุนงบจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในปี 2562 เพื่อติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 215 กิโลวัตต์ พร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงาน (แบตเตอรี่ลิเธียม) ขนาดความจุ 998 กิโลวัตต์ – ชั่วโมง พร้อมติดตั้งโครงข่ายไฟฟ้าชุมชนระยะทาง 5,409 เมตร , ติดตั้งเสาไฟฟ้าแสงสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 120 ชุด และโรงคลุมแบตเตอรี่ฯ ในพื้นที่ อ.อมก๋อย 5 แห่ง ได้แก่

1.หมู่บ้านพะอัน ต.สบโขง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 30.72 กิโลวัตต์

2.หมู่บ้านจกปก ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 51.20 กิโลวัตต์

3.หมู่บ้านห้วยไก่ป่า ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 51.20 กิโลวัตต์

4.หมู่บ้านมูเซอหลังเมือง ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 51.20 กิโลวัตต์

5.ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 30.72 กิโลวัตต์

ทั้งนี้ ในปี 2561 ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคง พื้นที่ อ.อมก๋อย ได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของประชาชนเกี่ยวกับการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ ทำการประชุมประชาคมของประชาชนทั้ง 4 หมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่ของ 3 อบต. ได้แก่ อบต.สบโขง, อบต.แม่ตื่น และ อบต.ม่อนจอง โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ติดตั้งระบบฯ ทาง กอ.รมน.ภาค 3 จึงได้เสนอโครงการฯ เข้ารับการสนับสนุนงบประมาณในกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในปี 2562 

โดยการจัดซื้อจัดจ้างได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยกำหนดราคากลางของโครงการตามบัญชีราคามาตรฐานของกรมบัญชีกลาง และการสืบราคาจากท้องตลาด โดยใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั่วไปยื่นข้อเสนอ ที่ผ่านมามีผู้สนใจยื่นรับเอกสารผ่านระบบฯ 4 ราย และมีผู้ยื่นเสนอราคา 3ราย เมื่อตรวจสอบเอกสารตามเงื่อนไข ปรากฏว่ามีผู้ยื่นเอกสารที่ถูกต้องครบถ้วน 2 ราย คือ บ.ทีซัส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ บ.บี.เอ็น.โซล่าร์ เพาเวอร์ จำกัด ส่วนกิจการร่วมค้า เอ็ม เอ็ม ซึ่งเสนอราคาต่ำสุดยื่นเอกสารไม่ถูกต้อง และไม่ครบถ้วน 11 รายการ ซึ่งเป็นเอกสารที่เป็นสาระสำคัญต่อผลสำเร็จของโครงการ จึงไม่ผ่านการคัดเลือก

สำหรับ บริษัท บี.เอ็น.โซล่าร์ เพาเวอร์ จำกัด ที่เป็นผู้ชนะการประกวดราคา (45 ล้านบาท) จดทะเบียนตั้งบริษัทในปี 2557 เพื่อประกอบกิจการด้านพลังงานทดแทนอย่างชัดเจน ประกอบกับมีผลงานการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานวงเงินไม่น้อยกว่า 12 ล้านบาทตามเงื่อนไข

สำหรับการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ มีเป้าหมายหลักคือพื้นที่สาธารณะประโยชน์ และพื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน ได้แก่ อาคารเรียน, ศาลาประชาคมประจำพื้นที่ และเสาไฟส่องสว่างตามเส้นทางภายในหมู่บ้าน ส่วนโครงข่ายไฟฟ้าชุมชนที่ให้ประชาชนใช้งานภายในบ้านจะดำเนินการต่อไป 

ที่ผ่านมา กอ.รมน. ได้ตรวจรับงานแล้ว เมื่อเดือน ก.ย. 2563 ระบบสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมจัดทำบัญชีคุมอุปกรณ์การผลิตไฟฟ้าฯ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการโอน/ส่งมอบระบบให้ทั้ง 3 อบต. ใช้งาน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563 คาดว่า อบต. รับแล้ว แต่ต้องไปขอประชุมสภา อบต. ก่อน ประมาณเดือน ก.พ. 2564 ตอนนี้จึงยังตอบรับเป็นทางการไม่ได้ 

โฆษก กอ.รมน. ยืนยันว่า จะไม่ฟ้องกลับ และชื่นชมโซเชียลมีเดียที่มีการตรวจสอบการใช้งบหลวง ทางเราก็ต้องชี้แจงให้เข้าใจ ส่วนที่มีราคาแพง เพราะมีอุปกรณ์ส่วนควบ การลากสายไฟฟ้าไปบ้านเรือนต่างๆ รวมถึงเสาไฟฟ้าในพื้นที่ เป็นพื้นที่ราบสูง 

สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทหน้าที่ กอ.รมน. ว่าจำเป็นต้องมาทำโครงการนี้หรือไม่ และควรยุบ กอ.รมน. หรือไม่ ในฐานะที่ตนเป็นคน กอ.รมน. ยืนยันว่า กอ.รมน. มีบทบาทและความสำคัญในแต่ละพื้นที่ อีกทั้งโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เป็นหน้าที่ของ กอ.รมน. เพราะการอยู่ดีมีสุข เป็นเรื่องของความมั่นคง

ส่วนกรณีมีบริษัทที่ได้งานนามสกุลเดียวกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย จะเป็นสาเหตุทำให้ราคาแพงหรือไม่นั้น โฆษก กอ.รมน. ยืนยันว่าการประมูลใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นใครจะเข้ามาก็ได้ ไม่จำกัดว่านามสกุลอะไร ถ้าข้อกำหนดตรงตามสเปค

ส่วนกรณีมีข่าวว่าโครงการที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ใช้งานไม่ได้นั้น เข้าใจว่าจะเป็นเพียงบางส่วน คงไม่ถึง ทั้งหมด 20 จุด และอยากให้มีการลงไปตรวจสอบถึงระดับพื้นที่ในแต่ละหมู่บ้านว่าชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ได้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การใช้งานในภาพรวมคงต้องใช้ไปก่อน ถึงจะรู้ว่าต้องปรับปรุงส่วนใดหรือไม่ แต่ยืนยันการดำเนินงานมีประกันอยู่แล้ว

ส่วนพื้นที่หมู่บ้านแม่เกิบ อ.อมก๋อย ที่ตกเป็นข่าวนั้น ขอย้ำว่าไม่ได้อยู่ในโครงการ แต่มีแผนที่เข้าไปดำเนินการในอนาคต พร้อมมองว่าการลงพื้นที่ของพิมรี่พาย เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำรองช่วยเหลือสังคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :