7 พรรคการเมืองฝ่ายค้าน ร่วมแถลงถึงกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่บรรจุญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นร้องขอให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบที่มาของส.ว. โดย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปถึง 3 ญัตติ แต่กลับถูกรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ไม่บรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจ ซึ่งเราเห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้อำนาจที่ได้รับมาจากประชาชนในการทำงานตรวจสอบต่างๆ ตามที่ประชาชนสงสัย หากรองประธานสภาฯ พิจารณาเช่นนี้ เท่ากับลดอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรลง วันข้างหน้าสภาฯ อยากพิจารณาเรื่องประกาศคำสั่ง คสช. จะทำได้หรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วเมื่อคสช.ไปแล้ว ผลผลิตการใช้อำนาจของเขายังอยู่ และเราไม่สามารถไปยุ่งอะไรกับเขาได้เลย แบบนี้เป็นอันตราย และอยากให้รองประธานสภาฯ ทบทวน เพราะหากไม่ทบทวนจะมีปัญหาในทางกฎหมาย พรรคร่วมฝ่ายค้านจะสงวนเรื่องนี้ไว้พิจารณาในทางกฎหมายต่อไป

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากประธาน และรองประธานสภาวินิจฉัยเช่นนี้เป็นเจตนาที่จะละเมิดรัฐธรรมนูญ เพราะคสช. เป็นองค์กรที่เข้ามาใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ฝ่ายนิติบัญญัติจึงมีหน้าที่ในการตรวจสอบ เรายื่นญัตติผ่านไป 8 วันแล้ว และยังไม่มีการแจ้ง ทั้งที่ข้อบังคับระบุว่า เมื่อสมาชิกยื่นญัตติด่วนให้กับประธานแล้ว ประธานต้องแจ้งผู้ยื่นภายใน 5 วัน นับตั้งแต่วันรับญัตติ เราอนุมานว่าญัตติเราเป็นญัตติด่วนแน่นอน แต่ผ่านไปแล้วกลับไม่มีถูกบรรจุอยู่ในวาระ แปลว่ามีเจตนาไม่บรรจุญัตติ และไม่แจ้งเจ้าของญัตติ ดังนั้น จึงมีความผิดคือ 1.เจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ และ 2.เราจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนประธาน และรองประธานคนที่ 2 ที่ใช้อำนาจหน้าที่ในส่วนนี้ และส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และถ้ามีความผิดปรากฎชัดแจ้ง จะผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 ตามมาอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่จำเป็นต้องทำ ทั้งนี้หากไม่ทบทวนบรรจุญัตติดังกล่าว เราจะเดินทางไปยื่นคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 1 ก.ค. เพื่อให้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวต่อไป

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่มารวมตัวกันเพื่อแถลงอย่างเป็นทางการว่า ประธานรัฐสภาไม่ยอมบรรจุวาระที่ฝ่ายค้านยื่นตรวจสอบที่มาส.ว. และมาร่วมพิจารณากัน 7 พรรคว่า ว่าการไม่บรรจุวาระดังกล่าวนี้เป็นการกระทำผิดของของประธานสภาฯหลายประเด็น

เมื่อถามว่า กรณีนี้ดูเหมือนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เกรงใจผู้มีอำนาจใช่หรือไม่ นายสุทิน ตอบว่า แน่นอน ดูจะเป็นการสมคบคิดกันระหว่าง คสช. รัฐบาล และประธานสภาหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกเราตรวจสอบการได้มาซึ่ง ส.ว. ขอย้ำว่า เราให้เวลาถึงวันก่อนที่ 1 ก.ค. ถ้าประธานสภาฯ ยังไม่ยอมบรรจุวาระ ทุกคนจะเดินทางไปขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ถ้าดูแล้วมีความผิดทางอาญาก็จะไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไปด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สภาฯ ตีตกญัตติตั้ง กมธ.สอบที่มา ส.ว. ชี้ "ไม่ใช่อำนาจ ส.ส."