พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ที่ประชุมวันนี้มีการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองในหลายกระทรวง ซึ่งจะทยอยแต่งตั้งไปเรื่อยๆ คาดว่า จะแต่งตั้งแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ตนขอให้มองว่าเป็นการตั้งคนเพื่อเข้าไปทำงาน เพื่อไปช่วยงานที่กระทรวงและช่วยงานรัฐมนตรี ซึ่งความจริงแล้วตำแหน่งเหล่านี้เป็นตำแหน่งของนายกฯ แต่ตนได้มอบหมายให้ทุกกระทรวงเพื่อช่วยติดตามงานและรายงานกลับมาที่นายกฯว่าได้ทำอะไรไปบ้าง แม้จะไปอยู่ตามกระทรวงแล้วก็ตาม จึงขอชี้แจงให้เกิดความมั่นใจ ว่าเป็นระบบการตรวจสอบถ่วงดุลเช่นเดียวกัน และขออย่าไปดูถูกว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่มีความสำคัญ หรือเป็นตำแหน่งต่างตอบแทน ตำแหน่งเทกระโถน จะไปดูถูกคนแบบนี้ไม่ได้ ถ้าดูถูกกันแบบนี้ก็คงไม่มีใครอยากไปทำงานให้
'ประยุทธ์' ปัดนัดทานข้าวกับพรรคเล็ก
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ยังไม่มีการนัดรับประทานอาหารหารือกับพรรคการเมืองเล็ก ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีใครไปนัดหรือไม่ โดยยืนยันว่า มีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพ ทางการเมือง จากการทำงานร่วมกับ รัฐมนตรีหรือ ครม. ที่มาจากการเลือกตั้ง ทุกอย่างบรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี ด้วยมิตรไมตรีและความเข้าใจซึ่งกันและกันในการทำงาน โดยมีการปรึกษาตนตลอด ว่าอะไรทำได้หรือทำไม่ได้ เพราะมีกฏหมายหลายตัว ทุกคนต้องระมัดระวัง เรื่องในสภาก็เป็นเรื่องในสภา ซึ่งตนเคยผิดไว้แล้ว เรื่องใดเป็นประโยชน์กับประชาชนจะต้องร่วมมือกันให้ได้ แต่หากมุ่งแต่เสียงข้างมาก เสียงข้างน้อย ล้มกันไปมา ประเทศชาติเดินหน้าไม่ได้ ดังนั้นจึงขอร้อง ส.ส.ให้เห็นแก่ประเทศชาติ
นายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธตอบคำถาม ว่าจะรับตำแหน่งทางการเมืองพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ โดยกล่าวสั้นๆ ว่า "โน คอมเมนต์"
เช่นเดียวกับประเด็นที่ฝ่ายค้าน เตรียมตั้งกระทู้ถามสดปมถวายสัตย์ นายกรัฐมนตรีก็ไม่ตอบเช่นกัน โดยกล่าวสั้นว่า ไม่ขอตอบคำถามนี้
ส่วนที่ ฝ่ายค้านรณรงค์ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับผ่านสภาร่างรัฐธรรมูญ ต้องดูตามขั้นตอนและวิธีการทางกฏหมาย ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา อยู่ระหว่างปรึกษา ว่าจะแก้ในประเด็นใดบ้าง
'ประยุทธ์' ปัดตั้งศูนย์ข่าวปลอมเป็นเครื่องมือทางการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า การตั้งศูนย์เฟคนิวส์เซ็นเตอร์ Fake News (ข่าวปลอม ) ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ไม่ใช่เป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่ขอให้ดูว่า ข่าวที่เกิดขึ้นมีทั้งเรื่องจริงและไม่จริงบิดเบือน เช่น บิดเบือนการขึ้นภาษี ทั้งที่รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ
ดังนั้นไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตามหากยังไม่เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ก็ไม่สามารถทำได้ทั้งนั้น อีกทั้งคนจะนำเรื่องเข้าครม.ก็ต้องผ่านการตรวจสอบจากตน และคณะทำงานของตนก่อน จึงจะนำเข้าที่ประชุม ครม. ได้ไม่ใช่เสนอมาแล้วอนุมัติได้เลย มันไม่ปลอดภัยและต้องระมัดระวังในข้อกฎหมาย หากประชาชนสงสัยในเรื่องใดก็ตามก็สอบถามมาตามช่องทางต่างๆ ได้ขณะเดียวกันตนได้มอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจงในเรื่องต่างๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง