ไม่พบผลการค้นหา
แบงก์ชาติเชิญผู้ประกอบการรับฟังความคิดเห็น ก่อนออกเกณฑ์คุมสินเชื่อ 'ทะเบียนรถแลกเงิิน' หวังดูแลประชาชนให้ได้รับบริการอย่างเป็นธรรม กำหนดเพดานดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี ถ้าขายทอดตลาดมีส่วนเกินต้องคืนให้ลูกค้าเงินกู้ ผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาทขึ้นไป

นางวจีทิพย์ พงษ์เพ็ชร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินโดยมีทะเบียนรถเป็นประกันอย่างแพร่หลาย แต่ยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลอย่างชัดเจน รวมทั้งมีข้อร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ทั้งการคิดดอกเบี้ยแพงและแนวการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม 

ดังนั้น ภาครัฐโดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย จึงเข้ามากำกับดูแลการประกอบการในส่วนนี้ เพื่อให้ประชาชนโดยเฉพาะรายย่อยสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ในอัตราที่เหมาะสม และได้รับการบริการจากผู้ประกอบธุรกิจอย่างเป็นธรรม 

ธปท. จึงได้เชิญผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันและผู้ที่สนใจเข้ารับฟังหลักเกณฑ์การกำกับดูแลก่อนนำออกใช้ โดยรายละเอียดที่สำคัญมี 2 ส่วนดังนี้

หนึ่ง การคุ้มครองประชาชนให้ได้รับบริการที่เป็นธรรม 

  • ผู้ประกอบธุรกิจสามารถคิดดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี
  • กรณีที่ผู้กู้ต้องการชำระเงินกู้ก่อนกำหนด ห้ามคิดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
  • กรณีที่มีการขายทอดตลาดรถ ผู้ประกอบธุรกิจต้องคืนเงินส่วนต่างที่เหลือกับผู้กู้อย่างเหมาะสม
  • ผู้ประกอบการต้องให้ข้อมูลชัดเจนตรงไปตรงมาและเพียงพอ เพื่อให้ผู้กู้ใช้ประกอบการตัดสิน

สอง คุณสมบัติของผู้ประกอบการ

  • กรรมการและผู้บริหาร ต้องไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมายกำหนด
  • ผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาทขึ้นไป หากปัจจุบันยังไม่ถึงเกณฑ์ สามารถเพิ่มทุนได้ภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากมีประกาศตามกฎหมาย

ทั้งนี้ เมื่อประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยมีผลบังคับใช้แล้ว ผู้ประกอบธุรกิจต้องยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจภายใน 60 วัน