วันที่ 22 ก.ย. 2565 ที่ จ.สุราษฎ์ธานี ก่อนการประชุมจัดตั้งสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ เขตเลือกตั้งที่ 3 พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงการลงพื้นที่ใน จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ไม่ได้คิดเจาะไข่แดงพรรคใด เพราะการเมืองเป็นเรื่องของประชาชน พรรครวมไทยสร้างชาติต้องการแสวงหาการเมืองรูปแบบใหม่ ซึ่งไม่ใช่แค่ที่นี่ แต่ในพื้นที่ทั่วประเทศ สาขาในจังหวัดอื่นก็จะทยอยเปิดตามความพร้อม ตามแนวทางของพรรคคือ 'สู้ได้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง'
พีระพันธุ์ เผยถึงการได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองท้องถิ่นอย่าง พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานี และสมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) สุราษฎร์ธานีว่า ที่ผ่านมาการเมืองมักคิดแต่ภาพใหญ่ แต่ลืมภาพเล็กคือปัญหาจากประชาชนในระดับรากหญ้า ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมในสังคม ตลอดจนการทำมาหากินที่ติดขัดหลายอย่าง สิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีใครมาเป็นปากเสียงในการต่อสู้เพื่อประชาชนในการแก้ไขปัญหา
พรรครวมไทยสร้างชาติ นอกจากมีนโยบายภาพใหญ่ของประเทศ ก็มีนโยบายให้ภาพเล็กด้วย การได้นักการเมืองท้องถิ่นมา ก็จะทำให้เราเข้าใจปัญหาประชาชนได้มากขึ้น จึงทำให้เรามีความมั่นใจว่านโยบายและแนวทางการทำงานของพรรคได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน
สำหรับเป้าหมายในพื้นที่ภาคใต้ พีระพันธุ์ ตอบว่า พรรคการเมืองทุกพรรคมีเป้าหมายทั้งประเทศ เพียงแต่จะให้ประชาชนสนับสนุนได้แค่ไหนก็เท่านั้นเอง ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติตั้งเป้าจำนวนที่นั่งพอสมควร ต้องการได้ที่นั่งใน จ.สุราษฎร์ธานีทั้ง 6 เขตเดิมและ 1 เขตใหม่ นอกจากนี้ จะพยายามส่งให้ครบทุกเขตทั้งประเทศ ขึ้นอยู่ทำให้ประชาชนสนับสนุนได้หรือไม่เท่านั้น นี่คือโจทย์ท้าทายของพรรครวมไทยสร้างชาติต้องการจะนำเสนอแนวทางใหม่ให้ประชาชนด้วย
ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้น พีระพันธุ์ กล่าวว่า เป็นไปตามระบบ แต่จะคนเดียวหรือไม่นั้น ก็ขี้นอยู่กับพรรค แต่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง พีระพันธุ์ ยืนยันว่า พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมเลือกตั้ง
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ พีระพันธุ์ ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตอบว่า ได้พูดคุย แต่ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นเรื่องงาน และไม่ได้พบท่านเลย ตั้งแต่พักงานนายกฯ จึงไม่ได้รายงานอะไรกับท่าน ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่นั้น พีระพันธุ์ ตอบว่า ที่ผ่านมาเห็นท่านสัมภาษณ์ว่าจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ก็คงต้องถามท่านก่อน
แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมประชุมจัดตั้งสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ เขตเลือกตั้งที่ 3 ณ โรงแรมแก้วสมุย อ.เมืองจ.สุราษฎร์ธานี
โดย พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวปราศรัยในหัวข้อ 'รวมไทยสร้างชาติ รวมสุราษฎร์สร้างเมือง' ตั้งเป้าพัฒนาสุราษฎร์ธานีเป็นเมืองหลวงของภาคใต้ตอนบน พร้อมแนะนำทีมงานคนอื่น ประกอบด้วย ธานินท์ นวลวัฒน์ ส.จ. อ.กาญจนดิษฐ์ โรจน์พิศาล อินทรักษ์ อดีต ส.จ. อ.บ้านนาสาร อดีตนายกสมาคมกีฬาสุราษฎร์ธานี อดีตรองนายก อบจ. สุราษฎร์ธานี ปรเมษฐ์ จินา รองนายก อบจ. สุราษฎร์ธานี และ อนงค์นาถ จ่าแก้ว ลูกสาวนายพงษ์ศักดิ์ ส่วนอีก 3 เขต มีรายงานว่ามีตัวว่าที่ผู้สมัครแล้ว จะเปิดตัวในภายหลัง
จากนั้น พีระพันธุ์ ขึ้นปราศรัยในฐานะหัวหน้าพรรค ถึงแนวนโนบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ มุ่งเน้นแก้ปัญหาฐานรากของพี่น้องประชาชน โดยยกตัวอย่างผลงานขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการช่วยเหลือหญิงชาวใต้คนหนี่งที่บุตรชายถูกพิพากษาประหารชีวิตโดยไม่มีความผิดให้มีอิสรภาพจากเรือนจำได้ ตลอดจนนำเสนอแนวทางการพัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมเชิญชวนประชาชนพิจารณาไว้วางใจพรรครวมไทยสร้างชาติเพื่อดูแลชาวสุราษฎร์ธานีต่อไปด้วย
เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวปราศรัยในการประชุมจัดตั้งสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ เขตเลือกตั้งที่ 3 โดยระบุว่า จ.สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีความผูกพันส่วนตัว เดินทางมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มาแล้วรู้สึกประทับใจที่สุด เพราะมีคนมาต้อนรับจำนวนมาก ในเวลาที่ตนและพรรครวมไทยสร้างชาติต้องการกำลังใจ
“สมัยก่อนเจอหน้าทีวี ออกมาปกป้องผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นร้อยวัน ระลึกถึงวีรกรรมที่เราสร้างร่วมกันทุกวันทุกเวลาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ไม่เคยเปลี่ยน เป็นความประทับใจที่ผมได้ต่อสู้ร่วมกับพี่น้องทุกคน แต่ภารกิจเปลี่ยนไปแล้ว ถึงเวลาที่เราจะเดินไปข้างหน้า ประเทศชาติต้องการคนแก้ปัญหาประชาชนในยามวิกฤต นั่นคือที่มาของพรรครวมไทยสร้างชาติ”
เอกนัฏ กล่าวว่า ถึงเวลาที่ทีมงานของพรรครวมไทยสร้างชาติจะทยอยเสนอตัวต่อพี่น้องประชาชน ไม่ใช่แค่ภาคใต้ แต่ต่อคนไทยทั้งประเทศ ภารกิจเราไม่ง่าย ถึงแม้พรรคจะสร้างใหม่ แต่ก็สร้างขึ้นอย่างมั่นคง ดีเอ็นเอผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติคือนักสู้ แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่ว่าที่ผู้สมัครฯ และทีมงานทุกคน ต่างมีประวัติร่วมต่อสู้กับประชาชน เป็นคนเสียสละและทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน
“หากพี่น้องประชาชนตรงนี้สนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็จะได้ ส.ส. นักสู้ในพื้นที่สุราษฎร์ธานี และหากได้รับการสนับสนุนมากพอ พรรคเราก็มีสิทธิเสนอ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มาเป็นผู้บริหารประเทศด้วย เราจะเจอกันใหม่ในเวลาที่ชาติต้องการ” เอกนัฏ กล่าว