วันนี้ (25 ก.ย.66) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินและคณะ ได้เดินทางมายื่นคำร้องถึง รมว.อุตสาหกรรม(พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล) เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาสอบอดีตรัฐมนตรีอุตสาหกรรม อดีตเลขารัฐมนตรีอุตสาหกรรม และอดีตอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(ปลัดอุตฯ) และบริษัทเอกชนที่ได้งาน ว่าดำเนินโครงการอาชีพดีพร้อมงบ 1250 ล้านบาท ที่ส่อไปในทางทุจริต ล็อคสเปกและฮั้วกันหรือไม่
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก รมว.อุตสาหกรรมคนก่อนหน้านี้ ได้ขออนุมัติงบกลางให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตฯ ใช้ดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม “อาชีพดีพร้อม” วงเงิน 1,250 ล้านบาท แต่พบว่าเป็นการใช้งบประมาณงบกลางอาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ โดยอาจมีการฮั้วและล็อกสเปกไปฝึกอบรมให้กับประชาชนในพื้นที่ของผู้สมัครพรรคการเมืองเดียวกับรัฐมนตรี และใช้หน่วยงานของรัฐเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคการเมืองดังกล่าว
อีกทั้ง อาจมีพฤติกรรมการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนบางรายโดยการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ หรือวัสดุที่ใช้ในการอบรมจากบริษัทที่ไกล้ชิดกับเลขาส่วนตัวของ รมต.อุตฯ(ขณะนั้น) โดยเป็นการซื้อจากบริษัทเดียวทั่วประเทศที่เป็นบริษัทผู้ใกล้ชิดกับฝ่ายการเมือง และในการดำเนินการจัดฝึกอบรมแต่ละจังหวัดมีการหักหัวคิวค่าวิทยากร และเบิกการจ่ายค่าวิทยากรเกินความเป็นจริง บางพื้นที่ไม่ได้มีการจ่ายจริง และมีการหักหัวคิว ค่าใช้จ่าย ในส่วนของผู้เข้าร่วมอบรม บางพื้นที่ไม่ได้มีการจ่ายจริง ไม่ได้มาอบรมจริง แต่เบิกเต็มจำนวน ใช่หรือไม่
กรณีดังกล่าว มีผู้ไปร้องเรียนให้คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎรชุดก่อนหน้านี้ตรวจสอบ ซึ่งพบว่าเป็นจริงตามร้อง แต่ต่อมามีการเกี๊ยเซียะกันโดยมีการแบ่งโซนอบรมลงตัว เลยไม่มีการตรวจสอบต่อ อันเป็นข้อพิรุธ ซึ่งปัจจุบันคนถูกตรวจสอบกับคนตรวจสอบกลับกลายมาอยู่พรรคการเมืองเดียวกัน ได้เป็นรัฐมนตรีเหมือนกันไปแล้ว แต่งบประมาณแผ่นดินกลับถูกนำไปละลายน้ำ สร้างประโยชน์ให้กับนักการเมืองและบริษัทผู้ได้งานที่เตรี๊ยมกันไว้แบบเจาะจง แต่ยังหาผู้รับผิดชอบไม่ได้
ด้วยเหตุดังกล่าว องค์การรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความมาร้องเรียนให้ รมว.อุตสาหกรรมคนใหม่ได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ อดีตรัฐมนตรี อดีตเลขารัฐมนตรี และอดีตอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและเอกชนว่ามีการฮั้ว ล็อกสเปกให้กับบริษัทผู้รับจ้างเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองหรือพรรคการเมือง ที่ส่อไปในทางที่ทุจริตและประพฤติมิชอบ อันขัดต่อ พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 และ พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 ประกอบระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 หรือไม่ หากตรวจสอบแล้วเป็นไปตามข้อร้องเรียนให้ส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการเอาผิดตามครรลองของกฎหมายต่อไป แต่หากยังเพิกเฉยหรือลูบหน้าปะจมูกกันองค์กรรักชาติฯ ไปไปยื่น ป.ป.ช.เสียเอง นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด