นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุน วันนี้ (7 ส.ค. 2562) ว่าได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะองค์กรรัฐวิสาหกิจทั้ง 45 แห่ง เร่งรัดการใช้จ่ายโครงการที่อยู่ในปีงบประมาณ และปีปฏิทิน 2562 โดยในช่วงเวลาที่เหลือต้องการให้ผลักดันให้เต็มที่ หากติดอุปสรรคในระหว่างกระทรวง หรือ ระหว่างหน่วยงาน ก็ต้องเคลียปัญหาให้จบทุกอย่าง ส่วนโครงการใหม่ที่วางแผนจะดำเนินการให้นำมาเสนอให้คิดและลงมือทำทันที 

"โครงการติดปัญหาที่มีหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมมีปัญหากันเอง หรือ กระทรวงการคลัง มีความขัดแย้งในขั้นตอนต่อจากนี้ไปจะต้องไม่มี หวังว่าช่วงปีที่เหลือของปีจะต้องเร่งรัด และกลับมาหารืออีกครั้งหลัง 2 เดือน" นายสมคิด กล่าว

'ศักดิ์สยาม' ยันไม่ได้สั่งการรื้อบอร์ดรัฐวิสาหกิจ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การดำเนินการต่อไปนี้อุปสรรคในเรื่องของการประสานงานจะหมดไป การดำเนินการในแต่ละเดือนจะมีการสรุปผล ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะทำทุกสัปดาห์ โดยจะลงมากำกับด้วยตัวเอง เพื่อให้สามารถเดินหน้าได้

ส่วนประเด็นที่ส่งสัญญาณให้บอร์ดการบินไทยลาออก นายศักดิ์สยาม ระบุว่า ไม่ได้สั่งการให้รื้อ แต่เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการประเมินผู้บริหาร และคณะกรรมการ มีตัวชี้วัดความสามารถในการทำงาน หรือ KPI อยู่แล้ว โดยหลักการง่ายๆ คือ หน่วยงานใดทำดีก็คงไม่มีปัญหา แต่ที่หน่วยงานใดที่ทำแล้วประสิทธิภาพไม่ดีขึ้น ก็ต้องรีบเร่งรัดดำเนินการ เป็นการส่งสัญญาณปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกกระทรวงจำเป็นต้องทำ ไม่ใช่แค่กระทรวงคมนาคม เพราะหากไม่มี KPI ในการที่จะบอกว่าผู้บริหาร หรือ บอร์ดทำงานแล้วมีประสิทธิภาพหรือไม่แล้วปล่อยให้อยู่แบบนั้น รัฐวิสาหกิจก็จะมีภาระมากขึ้น และสุดท้ายภาระก็กลับสู่รัฐบาล และประชาชนผู้เสียภาษี

"หลักการง่ายสุด คือ ตั้งแต่เข้ามา แต่ละปีจนถึงปัจจุบันเป็นอย่างไร ประชาชนและ คนร.ดูอยู่ ผมเข้ามาผมก็ส่งสัญญาณไป คิดว่าไม่น่ามีปัญหา ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะหากมีการสรรหาจะต้องเข้าสู่กระบวนตามระเบียบ และนายกรัฐมนตรีก็มอบนโยบายชัดเจนว่าคนที่จะเข้ามา ต้องสามารถที่ทำให้รัฐวิสาหกิจมีการปรับปรุงประสิทธิภาพดีขึ้น ลดขาดทุน ใครกำไรดีอยู่แล้วก็ต้องดีขึ้นไปอีก" นายศักดิ์สยาม กล่าว

เมื่อถามว่าจะต้องเคลียร์กับกระทรวงการคลังหรือไม่ เนื่องจากประธานบอร์ดการบินไทยเป็นผู้แทนจากกระทรวงการคลัง นายศักดิ์สยาม ระบุว่า ไม่ต้องเคลียใจ เพราะเรื่องภายในกระทรวงคมนาคมมีการคุยกันมาตลอด ส่วนคณะกรรมการบริษัทจะต้องเป็นบุคคลเดิมหรือไม่นั้น ตอนนี้ให้ สนข.ทำข้อมูลอยู่ สัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน

'อุตตม' ย้ำประธานบอร์ดการบินไทยยังคงเดิม

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยันยันว่า ไม่มีปัญหาระหว่างทั้ง 2 กระทรวง เนื่องจากการดูแลบอร์ดรัฐวิสาหกิจ มีการประเมินติดตามใกล้ชิด และกระบวนการใหม่ก็เริ่มใช้แล้ว สคร.ก็เรียนครม.ไปแล้ว ว่าขั้นตอนหลังจากนี้ เรื่องประเมินแล้วจะตั้งบอร์ดใหม่ กระทรวงเจ้าสังกัด กับกระทรวงการคลังจะทำอย่างไร ยืนยันว่า จะมีการหารือใกล้ชิดแน่นอน รวมถึงคณะอนุกรรมการกลั่งกรอง ก่อนจะถึง คนร. อนุมัติสุดท้าย

"ขั้นตอนการแต่งตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ทั้งนี้กระทรวงเจ้าสังกัดต้องดูแล ไม่ใช่ตัดทิ้ง เช่น อย่างกระทรวงคมนาคมมีการสรรหา ก็ต้องสรรหามาก่อน แล้วมาที่คลังช่วยหารือตรวจสอบก่อนเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ก่อนเข้าคนร." นายอุตตม กล่าว

ส่วนทั้ง 45 บอร์ดรัฐวิสาหกิจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดหรือไม่นั้น นายอุตตม ระบุว่า ก็ต้องมาดู และเป็นหน้าที่ของเจ้ากระทรวงที่ดูแล ส่วนโควตาบอร์ดการบินไทย ขณะนี้ตำแหน่งประธานก็ยังเป็นคนเดิมอยู่ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไรต้องมีการหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมอีกครั้ง โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นบุคคลที่รู้เรื่องการเงินการคลังโดยเฉพาะเท่านั้น

ทั้งนี้ นายอุตตม ระบุว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดทำกระบวนการติดตามหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เข้มข้นขึ้น เพื่อต้องการให้มั่นใจว่าสนับสนุนหน่วยงานที่ทำในเรื่องของการลงทุนอย่างเต็มที่ และขอให้ประสานหน่วยงานทั้งหลายที่วางแผนลงทุนอย่างใกล้ชิด ในขั้นตอนใดที่ติดขัดขอให้แจ้งโดยเร็ว โดย สคร.จะเป็นผู้รวบรวมเพื่อดูว่าส่วนใดจะดำเนินการปลดล็อกได้ก่อน เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบฯปีนี้ที่เหลือกว่า 1.4 แสนล้านบาท