'แอมะซอน' บริษัทค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ของโลกสัญชาติอเมริกัน รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2562 เมื่อวันพฤหัสบดี (25 เมษายน) ที่ผ่านมา ด้วยยอดรายรับราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณเกือบ 2 ล้านล้านบาท หรือราวร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับตัวเลขการเติบโตไตรมาสแรกของปีก่อนหน้า
ยอดการเติบโตชะลอลง
แม้ตัวเลขหลักแสนล้านดูจะเป็นรายรับที่ไม่น้อย แต่หากนำอัตราการเติบโตราวร้อยละ 17 ไปเทียบกับตัวเลขในอดีตจะพบว่า ไตรมาส 1/2562 เป็นไตรมาสที่มีการเติบโตต่ำที่สุดตั้งแต่ไตรมาส 1/2558 ด้านรายรับของภูมิภาคอเมริกาเหนือที่อัตราการเติบโตร้อยละ 17 ไม่สามารถเทียบชั้นกับปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 46 ขณะที่ศึกหนักตกไปอยู่ที่การเติบโตด้านรายรับทั่วโลกที่หล่นลงมาเหลือเพียงร้อยละ 9 จากเดิมที่ร้อยละ 34
สำหรับภาคธุรกิจโฆษณาของแอมะซอน ซึ่งอยู่ภายใต้หมวด "อื่นๆ" ของบริษัท มีการชะลอตัวอย่างชัดเจน อัตราการเติบโตอยู่ที่เพียงร้อยละ 34 หรือที่ราว 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 8.65 หมื่นล้านบาท ทั้งที่มีการเติบโตอย่างต่ำที่ร้อยละ 60 มาตลอด 5 ไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนบริการคลาวด์ที่เติบโตดีถึงร้อยละ 41 ก็ยังเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 49
กำไรที่มากขึ้น
แม้ว่าอัตราการเติบโตทั้งหลายจะลดฮวบ แต่นักลงทุนกลับมองเห็นกำไรที่มากขึ้น โดยมีรายรับจากการดำเนินงานถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.41 แสนล้านบาท ขณะที่รายรับสุทธิของบริษัทแตะสถิติใหม่ที่ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.15 แสนล้านบาท ส่งผลให้มีอัตรากำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4
สาเหตุหลักที่อัตรากำไรของแอมะซอนเพิ่มขึ้นมาจากการเติบโตของธุรกิจให้บริการคลาวด์ โฆษณา และการขายบริการให้บุคคลภายนอก ซึ่งล้วนให้กำไรที่ดีแม้จะมีอัตราการเติบโตต่ำ
