บทความชิ้นล่าสุดจากหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐฯ สัมภาษณ์ ‘สก็อต เคลลี’ อดีตนักบินอวกาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ที่ขึ้นไปอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station : ISS) เป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปี เพื่อให้คำแนะนำกับประชาชนที่ไม่สามารถออกไปไหนได้จากมาตรการกักตัวของรัฐบาล
‘เคลลี’ กล่าวถึงคำแนะนำแรกในการสร้างตารางงานขึ้นมา โดยเขายกตัวอย่างว่า กรณีของตนเองที่ต้องทำงานอยู่บนอวกาศจะมีตารางงานที่ชัดเจนและค่อนข้างยุ่ง แต่ตารางงานเหล่านี้จะช่วยให้ผู้คนที่ต้องทำงานจากบ้านสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่าการไม่มีตารางงานที่ชัดเจน
ขณะเดียวกัน ก็ย้ำว่าการพักผ่อนก็เป็นเรื่องที่จำเป็น ทั้งการพักผ่อนระหว่างวันและการนอนหลับอย่างเต็มที่
เขาเสริมว่าการหางานอดิเรกทำก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจออกจากการติดอยู่กับที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานานๆ ได้ ในกรณีของเคลลีตอนต้องขึ้นไปทำงานบนไอเอสเอส เขากล่าวว่าตนเองพกหนังสือไปอ่านบนอวกาศด้วย ซึ่งทำให้เขาค่อนข้างมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการอ่านหนังสือได้ดี พร้อมแนะว่าเพื่อนนักบินอวกาศคนอื่นๆ ของเขาก็มีกิจกรรมยามว่างทั้งสิ้น เช่น การเล่นเครื่องดนตรี หรืองานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ
นอกจากนี้ งานวิจัยของนาซ่าที่ศึกษาจากนักบินอวกาศยังพบว่า การเขียนบันทึกประจำวันช่วยให้ผู้คนที่ต้องทำงานซ้ำซากจำเจอยู่อย่างนั้นสามารถมองหาความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวันของพวกเขาได้
ในกรณีที่ผู้ที่ถูกกักตัวอาจไม่ได้อยู่ร่วมกันกับครอบครัวหรือคนรักของตัวเอง เคลลี แนะนำว่าการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ฉลาดสุดๆ และตัวเขาเองตอนอยู่บนอวกาศก็ไม่เคยพลาดที่จะวิดีโอสื่อสารกับครอบครัวหรือเพื่อนเมื่อมีเวลาว่างเสมอ
อีกคำแนะนำเล็กน้อยของเขาคือ ในกรณีที่ผู้ถูกกักตัวอยู่ในบ้านนานๆ หลายคนมักจะเริ่มคิดถึงสภาพแวดล้อมธรรมชาติ อาทิ กลิ่นดินเมื่อฝนตก หรือเสียงของสัตว์ในธรรมชาติ แต่ด้วยข้อห้ามเรื่องความปลอดภัยจึงไม่สามารถออกไปได้ เคลลีเลยแนะนำให้ลองเปิดคลิปเสียงสัตว์ต่างๆ ในธรรมชาติ หรืออาจจะเป็นเสียงน้ำตกก็จะช่วยได้
สิ่งสำคัญที่สุดที่เคลลีแนะนำคือการต้องเชื่อผู้เชี่ยวชาญ การรับฟังข่าวสารที่มากเกินไปจากแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ อาจทำให้เกิดความสับสนในการปฏิบัติตนเพราะฉะนั้นผู้ที่ถูกกักตัวจำเป็นต้องเชื่อผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองและมีความน่าเชื่อถือ อาทิ องค์การอนามัยโลก (WHO)
ท้ายที่สุด เคลลี ย้ำว่า แม้สถานการณ์ในปัจจุบันจะดูน่าสิ้นหวังมากแค่ไหน และประชาชนอาจมองว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้ แต่ขอให้เชื่อไว้ว่าทุกคนสามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้เสมอ
อ้างอิง; NYT