ไม่พบผลการค้นหา
อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ เปิดตัว 'คณะก้าวหน้า' สานต่อภารกิจอนาคตใหม่ เตรียมเดินสายรณรงค์ทางความคิดทั่วประเทศ พร้อมเปิดโรงเรียนผู้ไม่ยอมจำนน

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยพรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกันเปิดตัวคณะก้าวหน้าผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ โดยนายธนาธร กล่าวว่าการเปิดตัวคณะก้าวหน้า ท่ามกลางวิกฤตประเทศหลายเรื่อง ทั้งเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ รวมถึงความศรัทธาผู้นำ และการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยปัจจุบันสังคมเผชิญวิกฤตที่เลวร้ายมากกว่ายุคต้มยำกุ้งปี 2540 ดังนั้นจึงจำเป็นต้องร่วมมือฝ่าวิกฤต

วันนี้จึงขอเสนอทางออกต่อวิกฤตให้รัฐไทย สำหรับการแก้ปัญหาไวรัส เราพบว่าหลักคิดของผู้นำประเทศไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ มีมาตรการอุ้มกลุ่มนายทุน เอื้อพวกพ้อง ขณะที่ประชาชนกลับถูกลอยแพ และไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ส่วนเรื่องการขายหน้ากากเกินราคา มีการเอาผิดกับผู้ค้ารายย่อย แต่คนใกล้ชิดรัฐมนตรีกลับไม่ถูกดำเนินคดีและมีความผิดเพียงแค่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และถูกปล่อยตัวชั่วคราว นี่คือการกระทำของรัฐที่เลือกปฎิบัติอย่างชัดเจน

ธนาธร-ก้าวหน้า

สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีเอกภาพขาดความเด็ดขาด ประชาชนขาดความเชื่อมั่น กลายเป็นวิกฤตของรัฐบาล ดังนั้น การแก้ไขปัญหาโควิด-19 ต้องปรับรูปแบบใหม่ โดยผู้เชี่ยวชาญ และบังคับใช้เป็นหนึ่งเดียว ต้องคำนึงว่าทุกชีวิตสำคัญเท่ากัน ต้องช่วยทุกชีวิตในสังคมให้ได้มากที่สุด และต้องทำให้ทุกคนเข้าถึงทรัพยากรได้

สำหรับทางออกจากวิกฤต หากพลเอกประยุทธ์ยังอยู่ ส่วนตัวเชื่อว่าปัญหายังไม่หายไป ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจะต้องลาออกเปิดทางให้ผู้ที่มีความเหมาะสมเข้ามาแก้ปัญหาวิกฤตของชาติแทน โดยมีภารกิจเร่งด่วน 2 เรื่องในกรอบเวลา 1 ปี คือ 1.การแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด -19 รวมถึงการฟื้นฟูประเทศหลังจากนั้น และ 2.เป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

โดยนายธนาธร ได้ข้อเสนอ 3 ยุบ 1 เลิก 1 แก้ ประกอบไปด้วยยุบศาลรัฐธรรมนูญ, ยุบคณะกรรมการการเลือกตั้ง, ยุบวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง, 1 เลิก คือ ยกเลิกมาตรา 279 ในรัฐธรรมนูญ 2560 และ 1 แก้ คือ แก้มาตรา 256 และกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ

พร้อมกันนี้ยืนยันว่าภารกิจของคณะก้าวหน้า ไม่ได้เป็นการช่วงชิงอำนาจทางการเมือง และในนามของคณะ ก้าวหน้าจะต่อสู้กับความอยุติธรรมต่อไป เพื่อสานต่อภารกิจและอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่

"ก้าวหน้าและก้าวไกลสู่อนาคตใหม่ที่เรากำหนดเอง"

ปิยบุตร-ก้าวหน้า

โดยนายปิยบุตร กล่าวว่า วันนี้คือวันครบรอบ 1 เดือนยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 7 คน โดยบางรายมีการคัดเลือกจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ผ่านการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. หลังจากการยุบพรรคได้เกิดปฏิกิริยาคัดค้านทั้งในและนอกประเทศ เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าคำวินิจฉัยนี้มีความยุติธรรมจริงหรือไม่

อย่างไรก็ดี ในวันนั้นนายธนาธร ได้ประกาศชัดเจนว่าจะเดินทางต่อ แม้ว่าจะมีการกีดกันโดยรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ต้องการลบเลือนคำว่า อนาคตใหม่ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อเป็นคำว่า 'คณะก้าวหน้า'

คำว่าพรรคอนาคตใหม่คือตำนานที่ยังมีชีวิต ที่ยังเป็นจิตวิญญาณที่จะเดินทางต่อเนื่อง โดยอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ มีเป้าหมาย คือ จะเห็นพวกเขารณรงค์ไปทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง การปกครอง สังคม ปฏิรูปกองทัพ ผ่านภาระกิจหลัก 3 ข้อคือ การสร้างเครือข่ายทั่วประเทศ รณรงค์ความคิด และรณรงค์หาเสียงเพื่อเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ 

โดยมีองค์ประกอบในการจัดทำเครือข่ายการทำงานทั่วทุกภมูิภาค เพื่อให้ครอบคลุมและยังมีงานเครือข่ายในเชิงบุคคล อาทิ กลุ่มแรงงานและกลุ่มชาติพันธ์ุ เพื่อสร้างความเสมอภาคและความเท่าเทียม รวมถึงการเปิดเครือข่ายในกลุ่มข้าราชการรุ่นใหม่ ที่ไม่ต้องการกรอบระเบียบของสังคมและข้อผูกมัดของข้าราชการยุคเก่า รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ไม่เห็นด้วยกับการเอื้อประโยชน์ทุนใหญ่ และกลุ่มนิสิตนักเรียนนักศึกษา

นอกจากนี้คณะก้าวหน้า ยังมีโครงการเปิด 'โรงเรียนผู้ไม่ยอมจำนน' โดยเปิดหลักสูตรเพื่อสร้างผู้นำความก้าวหน้า ส่วนทางวัฒนธรรมจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย ผ่านโมเดลงานวรรณกรรมและงานเสวนา รวมถึงการสื่อสารกับประชาชนทุกช่องทาง โดยเพิ่มเนื้อหาความเข้มข้นบรรยายวิชาการความรู้ปลูกฝังเรื่องประชาธิปไตย