วันที่ 26 มิ.ย. 2563 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาฎีกา คดีที่แกนนำ นปช.นำมวลชนชุมนุมปิดล้อมบ้าน สี่เสาเทเวศร์ บ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 (หมายเลขดำ อ.3531/2552 ) โดยคำพิพากษาฎีกา ให้จำคุกจำเลย 5 คน เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา โดยจำเลยประกอบ ด้วย จำเลยที่ 1นายนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 และจำเลยที 4-7 นายวีระกานต์ มุสิกพงศ อดีตประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท แกนนำ นปช., และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.
ทั้งนี้ ศาลฎีกาให้เหตุผลว่า ได้ตรวจสำนวนปรึกษาแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 1, 4-7 มีพฤติการณ์มั่วสุม ประทุษร้าย ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ เกิดการปะทะบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ทำให้เกิดความวุ่นวายทำลายความสงบเรียบร้อย เป็นเหตุร้ายแรง ไม่มีเหตุรอการลงโทษ ฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น ศาลฎีกาเห็นพ้องกับที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษ จึงพิพากษายืน ให้จำคุกจำเลยที่ 1, 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน ซึ่งบทลงโทษนี้ศาลฎีกาถือว่าเป็นบทลงโทษอุทธรณ์เมตตาและเป็นโทษสถานเบาแล้ว
ขณะที่บรรยากาศภายหลังพิพากษา แกนนำ นปช. ได้พูดคุยกับญาติและมวลชนที่มาให้กำลังใจ ก่อนเตรียมตัวให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวเพื่อไปคุมขังรับโทษตามคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดต่อไป
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ใส่เสื้อแดงลิเวอร์พลู ระบุว่า ถ้าหากวันนี้จะมีหรือไม่มีอิสรภาพ จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังคงยืนหยัดหลักการเดิม ส่วนตนไม่เชื่อว่าการรัฐประหารจะนำพาไปในสิ่งที่ถูกต้อง ที่มาผ่านต่อสู้กับคณะรัฐประหาร 2ชุด ในวันนี้ยังไม่พ่ายแพ้ ซึ่งชัยชนะต้องให้ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างเท่าเทียมเสมอภาค การแตกต่างทางความคิดเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่การโกรธแค้น ระบุตนไม่ได้โกรธแค้นคณะรัฐบาล หรือคณะมวลชนฝั่งรัฐบาล แต่เพียงไม่ยอมรับในสิ่งที่กระทำทางการเมือง
สำหรับวันนี้นายณัฐวุฒิให้เหตุผลที่ใส่เสื้อแดงลิเวอร์พูลมา โดยจะนำเสื้อสูทคลุมทับ ระบุว่าตนเป็นแฟนหงษ์แดงมาตั้งแต่เด็ก เคยบอกกับเพื่อนที่ไม่เปลี่ยนใจเพราะเชียร์ด้วยศรัทธาและเชื่อมั่น ที่ต้องใช้เวลา 30 ปีกว่าจะได้แชมป์ ซึ่งการเมืองและกีฬา มีความคล้ายกันคือมีกติกา ถ้ากติกาเป็นสากล แข่งขันด้วยความเป็นธรรม ทุกฝ่ายจะมีมิตรภาพ แต่ถ้ากติกาไม่เป็นธรรม หลังนกหวีดดังหมดเวลา กองเชียร์จะลงมาในสนาม ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นทั้งในสนามกีฬาและสนาทการเมือง อีกทั้งการเมืองไม่มีนกหวีดกมดเวลา
สำหรับคดีชุมนุมปิดล้อมบ้าน สี่เสาเทเวศร์ โดยก่อนหน้านี้ ศาลยกฟ้องจำเลย 2คน คือ นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน และ นายวันชัย นาพุทธาเพราะไม่ใช่แกนนำ
ด้านนายแพทย์เหวง โตจิราการ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารับฟังคำพิพากษาศาล โดยในช่วงศาลฎีกาได้กลับคำให้การ ด้วยการสารภาพ เพราะด้วยคำพิพากษา 2 ชั้นที่ผ่านมา ซึ่งต้องน้อมรับ จึงรับสารภาพ หากผลคำพิพากษาออกมาในทางลบกับตัวเองถือว่าที่ผ่านมาการต่อสู้ไม่เสียเปล่า ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไปจนกว่าจะสูญเสียชีวิต
ด้าน นางธิดา ถาวรเศรษฐ ระบุว่า ประชาธิปไตยจะต้องสูญเสียอิสรภาพ จะเป็นเกียรติประวัติ ซึ่งมีความเจ็บปวด และภาคภูมิใจ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดอะไรให้ ขอให้ภาคภูมิใจว่าได้เป็นแบบอย่าง ซึ่งถือว่าสิ่งที่คนรุ่นก่อนทำเป็นต้นทุน
ด้านนาย จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ซึ่งถูกฟ้องแยกคดี วันนี้มาร่วมรับฟังคำพิพากษา โดยระบุมาให้กำลังใจ
โดยหลังคำพิพากษา แกนนำทั้ง 4 คน และแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006เดินขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังอย่างสงบ โดยมีเจ้าหน้าที่นำตัวแกนนำทั้งหมดไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานนปช. ให้สัมภาษณ์ว่า บุคคลเหล่านี้เป็นคนมีความสามารถ เชื่อว่าเข้าไปอยู่ในเรือนจำจะสามารถทำประโยชน์ได้ ปัจจุบันการดูแลผู้ต้องขังมีมาตรการเหมาะสม ไม่ได้รู้สึกเป็นห่วง และย้ำว่า บุคคลเหล่านี้ไม่ใช่อาชญากร เป็นเพียงบุคคลที่มีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง
ขณะที่ นางสิริสกุล ใสยเกื้อ ภรรยานายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า นายณัฐวุฒิไม่ได้สั่งอะไรเป็นพิเศษก่อนเสียอิสรภาพ เพียงแต่ขอให้ดูแลลูกให้ดี และเชื่อมั่นว่านายณัฐวุฒิจะเข้มแข็งและผ่านสถานการณ์นี้ไปได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง