ไม่พบผลการค้นหา
สภากาชาดไทย ชี้แจงไม่ได้ตัดยอดขององค์การเภสัชกรรม Moderna 1 ล้านโดส แต่สั่งจองไว้ก่อนแล้ว จากวัคซีน 4 ล้านโดส นำฉีดต่อแก่ที่ผู้มีความจำเป็น ภายใต้เงื่อนไขไม่คิดค่าใช้จ่าย - ไม่นำไปจำหน่ายต่อ

วันที่ 18 ก.ค. สำนักสารนิเทศและสื่อสารองค์กร สำนักงานบริหาร สภากาชาดไทย ชี้แจงว่า ตามที่มีกระแสข่าวเรื่องการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 Moderna ของสภากาชาดไทย จำนวน 1 ล้านโดส ซึ่งมีผู้เข้าใจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 Moderna ที่องค์การเภสัชกรรมสั่งซื้อ จำนวน 5 ล้านโดส และสภากาชาดไทยขอแบ่งสรรวัคซีนโควิด-19 Moderna จากยอดสั่งซื้อ 5 ล้านโดสนั้น

ขอเรียนว่า สภากาชาดไทยได้ดำเนินการติดต่อขอสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 Moderna กับบริษัทผู้แทนจำหน่ายมาตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 เมื่อรัฐบาลมอบให้องค์การเภสัชกรรมดำเนินการจัดซื้อและนำเข้าวัคซีนโควิด-19 Moderna บริษัทผู้แทนจำหน่ายจึงได้ขอให้องค์การเภสัชกรรมได้สั่งวัคซีนเพิ่มเติมอีกจำนวน 1 ล้านโดสให้สภากาชาดไทยด้วย โดยบริษัทผู้แทนจำหน่ายได้แจ้งยืนยันกับองค์การเภสัชกรรมตั้งแต่ต้นว่า วัคซีนโควิด-19 Moderna ที่จะเข้ามาปลายปีนี้ เป็นของสภากาชาดไทย จำนวน 1 ล้านโดส ดังนั้นการสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 Moderna จำนวน 1 ล้านโดสของสภากาชาดไทย จึงไม่ได้เป็นการตัดยอดออกมาตามที่เข้าใจ แต่เป็นการสั่งจองไว้ก่อนต่างหากจากวัคซีนจำนวน 4 ล้านโดส

สภากาชาดไทยขอเรียนว่าสภากาชาดไทยในฐานะองค์กรสาธารณกุศลมีภารกิจสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินการด้านมนุษยธรรม มีความพยายามในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเสริมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้นมาโดยตลอด 

ทั้งนี้สภากาชาดไทยได้พิจารณากลุ่มคนเป้าหมายที่มีความจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19ในลำดับแรก ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งต้องปฏิบัติงานในด่านหน้าและมีความเสี่ยง กลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้ 

โดยสภากาชาดไทย โรงพยาบาลภาครัฐ และองค์การบริหารส่วนจังหวัด จะดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มคนดังกล่าวภายใต้เงื่อนไขว่าจะไม่คิดค่าใช้จ่าย และไม่นำวัคซีนไปจำหน่ายต่อ

งบประมาณการดำเนินการดังกล่าว ส่วนหนึ่งมาจากเงินสะสม เงินบริจาคของสภากาชาดไทย และเงินสนับสนุนจากโรงพยาบาลภาครัฐ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากสภากาชาดไทย ในอัตราเดียวกันกับที่สภากาชาดไทยต้องชำระให้องค์การเภสัชกรรม โดยสภากาชาดไทยได้จัดตั้ง “กองทุนสำหรับการจัดซื้อวัคซีนและยาโควิด-19 เพื่อประชาชน” สำหรับการดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป

https://scontent.fbkk22-3.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/217837280_4522001144500180_3002656901240868538_n.jpg?_nc_cat=1&ccb=1-3&_nc_sid=8bfeb9&_nc_eui2=AeE10wWXbswWt0r8Jn1ULqQ4Iu8HgWbn02Ii7weBZufTYlsRXuRLZabKh9UMKjBPdcE&_nc_ohc=p5cdwbjd0zIAX_uCRj3&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.fna&oh=611c083acecba87b9fb27b57a61e2cf9&oe=60F98897