ไม่พบผลการค้นหา
ปธ.กมธ.วิสามัญศึกษาควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตร เห็นชอบยกเลิก 3 สารเคมี 'พาราควอต-ไกลโฟเซต-คลอร์ไพริฟอส' ทันที่ เล็งเรียก 4 รมว.ถกเข้ม 4 ต.ค.นี้ ด้าน ดำรงค์พิเดช ขู่ ใครขวางยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่หากใครไม่เห็นชอบ

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้ยกเลิกสารเคมีการเกษตร 3 ตัว ประกอบด้วย พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสในทันที นอกจากนี้ ยังมีมติตั้งคณะทำงาน 1 ชุด เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงพิษภัยของสารเคมี โดยในสัปดาห์หน้า กมธ.จะเชิญรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 กระทรวงมาพูดคุยด้วย นอกจากนี้ ในวันที่ 4 นี้ ต.ค.นี้กมธ.จะลงพื้นที่ที่อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อดูและสุ่มตรวจพืชผักผลไม้ของจีนที่นำเข้าประเทศไทย รวมทั้งจะลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อไปพบปะประชาชนที่ประสบภัยสารเคมีว่าทุกข์ร้อนอย่างไรบ้าง 

“ขณะนี้สารเคมีในประเทศอันตรายถึงขั้นวิกฤตซึ่งไม่อาจยื้อไปได้อีก เพราะมันช้าเกินไปแล้ว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกสารทั้ง 3 ตัว เราหวังว่า จะไม่หนีเสือปะจระเข้ที่ยกเลิกสารเคมี 3 ตัวนี้ แล้วไปหาสารเคมีตัวอื่น เพราะความจริงแล้วมีวิธีในการทดแทนเพียงแต่นักวิชการของกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถูกบล็อกไม่ให้แสดงความคิดเห็นเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น เราจะเชิญนักวิชาการอิสระเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการทดแทน เพราะ 53 ประเทศเขาเลิกใช้แล้ว แม้แต่ในลาว กัมพูชา เวียดนาม ก็เลิกใช้แล้ว เราจึงหนักแน่นว่าไทยถึงเวลาต้องเลิกใช้เช่นกัน” นายชวลิต กล่าว

ด้าน นายดำรงค์ พิเดช กมธ. กล่าวว่า ปัญหาสารเคมีทั้ง 3 ตัวมีเบื้องหลังอยู่มากเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน มีเงินเข้าประเทศอย่างเดียว แต่ไม่คำนึงถึงชีวิตประชาชน ซึ่งเมื่อมีสภาผู้แทนราษฏรถือเป็นโอกาสดีที่ส.ส.ร่วมมือกันตั้งกมธ.ให้เรื่องนี้สำเร็จไม่มีอะไรมาต้านทานได้ เพราะรัฐมนตรีทุกคนมาจากประชาชน ต้องฟังเสียงประชาชน ซึ่งในที่ประชุมพูดคุยกันว่าหากลดสารเคมีได้จะเพิ่มพื้นป่าได้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีการใช้สารเคมีฉีดทำลายพื้นที่ป่าอย่างง่ายดาย หากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องคนใดไม่สนับสนับสนุนเรื่องดังกล่าว ตนจะขออภิปรายไม่ไว้วางใจ