นายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร ชี้แจงกรณีการเก็บภาษีอัตราดอกเบี้ยกับผู้ที่มีรายได้ดอกเบี้ยรวมน้อยกว่า 20,000 บาท ว่า ข่าวดังกล่าวสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน เนื่องจากกรมสรรพากรไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงการลดหย่อนภาษีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากแต่อย่างใด ซึ่งประกาศของกรมสรรพากรที่ออกมาก่อนหน้านี้และเป็นชนวนให้เกิดข่าวดังกล่าว แท้จริงแล้วเป็นการประกาศเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ที่มีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลดอกเบี้ยของประชาชนให้กับกรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบว่ามูลค่าดอกเบี้ยของบุคคลนั้นๆ เกินการลดหย่อนที่ประกาศไว้หรือไม่ ซึ่งหากไม่มีการตรวจสอบให้ถี่ถ้วนจะทำให้ทั้งประชาชนและธนาคารมีความผิดที่ไม่ได้จัดเก็บภาษีตามกฏหมาย
นายปิ่นสาย อธิบายเพิ่มเติมว่า กระบวนการการส่งข้อมูลดอกเบี้ยของประชาชนให้กับกรมสรรพากรอาจติดข้อกฏหมายบางประเภท ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับความยินยอมจากประชาชนก่อน จึงเป็นที่มาว่าธนาคารหลายแห่งให้ประชาชนไปทำเรื่องยินยอมการให้ข้อมูลดอกเบี้ยของตนแก่กรมสรรพากร ส่วนกรณีที่ประชาชนไม่ไปลงทะเบียนตามวันและเวลาที่ธนาคารระบุไว้ หากบุคคลนั้นๆ มีรายรับดอกเบี้ยรวมกันไม่เกิน 20,000 บาท จะไม่มีการเรียกเก็บภาษี อย่างไรก็ตามหากบุคคลนั้นๆ มีรายรับดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาท ขึ้นไป จะโดนหักทันทีตามกฎหมาย
นายปิ่นสาย ย้ำว่าประกาศที่ออกมาประชาชนร้อยละ 99 แทบจะไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งบุคคลจะได้รับดอกเบี้ยจากธนาคารเกิน 20,000 บาท จะต้องมีเงินอยู่ในบัญชีธนาคารรวมทุกบัญชีประมาณ 4,000,000 บาท แต่อยากให้ทุกคนไปลงทะเบียนที่ธนาคาร โดยให้มองว่ามีกรมสรรพากรคอยตรวจสอบอยู่