นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการทำงานของพรรคเพื่อไทยจากนี้ว่าจะเตรียมนโยบายหาเสียง และภายใต้เวลาที่จำกัดพรรคจะพิจารณาแบ่งทรัพยากรบุคคลลงพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ยืนยันว่าการแบ่งงานลงพื้นที่ไม่ใช่เรื่องการวัดความนิยมส่วนบุคคลแต่เป็นการร่วมมือทำงานเป็นทีม
สำหรับการสื่อสารกับพี่น้องประชาชนจะเน้น ทำความเข้าใจเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ ตอบโจทย์ประชาชน โดยเฉพาะการแก้ไขราคาพืชผลทางการเกษตร ต้องบริหารจัดการในทุกมิติไม่ใช่เน้นเรื่องราคาเพียงอย่างเดียว ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆ เช่น การบริหารจัดการน้ำ การกำหนดราคาต้องสอดคล้องกับช่วงเวลาที่เกษตรกรมีผลผลิต
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชนเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณเป็นประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือการอาศัยช่องว่างทางประชาธิปไตย แต่ไม่มีจิตวิญญาณที่เป็นประชาธิปไตย หัวใจไม่ใช่ประชาธิปไตย
สำหรับเรื่องการแข่งขันขออย่ามองคู่แข่งเป็นศัตรู เน้นการแข่งขันที่นโยบายคนที่ยึดมั่นในประชาธิปไตยต้องรวมตัวกันหาทางออก
ส่วน 4 รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ จะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ เป็นวิจารณญาณของแต่ละบุคคล ที่ต้องมีความชัดเจน และจะต้องอุทิศเวลาให้การทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมยกตัวอย่างให้เห็นว่า ตนเองเข้าสู่สนามการเมือง ยังต้องลาออกจากภาคเอกชน เพื่อให้เวลากับงานใดงานหนึ่งอย่างเต็มที่
ขณะที่ การทำงานของรัฐบาลควรเป็นรูปแบบรักษาการหรือไม่นั้น แกนนำพรรคเพื่อไทยเห็นว่า รัฐบาลในอดีตจะยุติบทบาทและทำหน้าที่ และทำงานในช่วงเลือกตั้ง เป็นรูปแบบของรัฐบาลรักษาการแต่ตอนนี้ไม่มีข้อกฎหมาย ห้ามไว้จึงเป็นเรื่องดุลพินิจของฝ่ายผู้มีอำนาจ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่กังวลเรื่อง ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำคดีความมาพิจารณาช่วงก่อนเลือกตั้ง เพราะพรรคเพื่อไทยทำงานเป็นทีมไม่ได้มีบุคลากรแค่ตนเพียงคนเดียว เชื่อหากเกิดอุปสรรคจะมีบุคคลพร้อมขึ้นมาทำหน้าที่แทน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง