เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 3 พ.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย ผู้แทนสันนิบาตสหกรณ์ นำโดย ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานนโยบายที่ดินและสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานนโยบายเกษตร พรรคเพื่อไทยเข้าหารือร่วมกับทีมผู้บริหารสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยได้เรียนเชิญตัวแทนสหกรณ์ทั้ง 7 ประเภท มาร่วมหารือนโยบายที่จะครอบคลุมวิชาชีพต่างๆ โดยในวันนี้พรรคเพื่อไทยเล็งเห็นถึงการกระจายอำนาจที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน พรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการเรื่องนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่เรื่องนโยบายกองทุนหมู่บ้าน เพราะการกระจายอำนาจนั้นองค์กรของประชาชนเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุด
วันนี้พรรคเพื่อไทยมีหลายนโยบายที่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากองค์กรสหกรณ์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกระจายอำนาจในพื้นที่ โดยในวันนี้ได้มีการรับฟังและหาข้อสรุปพื้นฐานเบื้องต้น ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะนำมาใช้เป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อนำเสนอต่อสภาและนำไปจัดการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาวสหกรณ์ต่อไปต่อไป ดังนี้
1. เราจะสนับสนุนและปฏิรูปกระบวนการสหกรณ์ให้เกิดความสำเร็จ
2. พรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนให้มีสภาสหกรณ์แห่งชาติ ให้มีความอิสระในการแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน
3. พรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ต้นทุนต่ำและให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ช่วยเหลือเกษตรกรทุกด้านโดยตรง
4. พรรคเพื่อไทยมีความเห็นร่วมกันว่าจะเร่งรัดให้ออกโฉนดที่ดินทำกินสหกรณ์นิคม 1.5 ล้านไร่ และจัดทำนโยบายเร่งรัดออกโฉนดที่ดิน ทำกิน 50 ล้านไร่โดยเร็วที่สุด
5. สนับสนุนการใช้รถไฟฟ้าสาธารณะ รถแท็กซี่ รถเมล์รถสาธารณะ ผ่านสหกรณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อม
ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานนโยบายที่ดินและสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 1. กระบวนการสหกรณ์ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องแก้ไขถึงระดับโครงสร้างทันที และเรื่องนี้สามารถแก้ได้ พรรคเพื่อไทย จะร่วมกันกับสมาชิกสหกรณ์ ปฏิรูปกระบวนการสหกรณ์เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยให้ได้
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องเป็นรองประธาน หรือประธานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อวัตถุประสงค์ต้องรับใช้เกษตรกรและสหกรณ์
3. พรรคเพื่อไทยจะออกเอกสารสิทธิและโฉนดรายบุคคล โดยมีเงื่อนไขให้มี การทำการเกษตรเพื่อความมั่นคงทางอากาศ และปลูกป่าถาวร เพื่อนำต้นไม้มารักษาต้นน้ำและดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์
4. รถสาธารณะในเมืองใหญ่โดยเฉพาะรถแท็กซี่ต้องเป็นรถไฟฟ้า เพื่อลดมลพิษฝุ่น PM 2.5