ไม่พบผลการค้นหา
แนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่าง 2 ผู้สมัคร ส.ส. ยะลา เขต 1 'ทนายอาดิลัน' จากพรรคพลังประชารัฐ มุ่งมั่นเข้ามาปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมจากต้นน้ำ และ 'อาจารย์สัญญา' จากพรรคประชาชาติ พัฒนาการศึกษาและเศรษฐกิจแก้ความขัดแย้ง

แม้ประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะเริ่มปรับตัวและกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงถือเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญที่พรรคและผู้สมัคร ส.ส. จะนำความสันติสุขและความกินดีอยู่ดีกลับคืนมาให้ประชาชนในพื้นที่

จังหวัดยะลา เขต 1 เป็นหนึ่งในสนามการเลือกตั้งที่ดุเดือด เพราะมี 3 พรรคใหญ่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด ได้แก่ นายสัญญา สุวรรณโพธิ์ อดีตรองนายกเทศมนตรีนครยะลา พ่วงด้วยหัวหน้าพรรค นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภาและรองนายกรัฐมนตรีชาวยะลา และเลขาธิการพรรค พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง อดีตเลขาฯ ศอ.บต. ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ส่งนายภูริพงศ์ พงษ์สุวรรณศิริ ลูกชายนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ เจ้าของพื้นที่หลายสมัยลงสมัครแทน ส่วนพรรคพลังประชารัฐดึงตัวทนายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดยะลา ลงสมัครรับเลือกตั้ง


สัญญา สุวรรณโพธิ์.JPG

นายสัญญา สุวรรณโพธิ์ ผู้ทำงานด้านการศึกษาและดำรงผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลยะลามากว่า 10 ปี ก่อนจะมารับตำแหน่งรองนายกเทศบาลนครยะลาอีกกว่า 10 ปี เห็นว่าการแก้ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องแก้ด้วยการศึกษา ปลูกฝังความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสังคมสมานฉันท์ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นให้เด็กๆ เข้าใจว่าเขาเป็นคนที่ไหน มาจากไหน และอยู่อย่างไรกับสังคมพหุวัฒนธรรม เพราะประวัติศาสตร์จะบอกให้เข้าใจว่า ก่อนที่ศาสนาจะเข้ามาทุกคนในแหลมมลายูคือ พี่น้องกัน ขณะเดียวกันนโยบายของพรรคคือการส่งเสริมให้คนในสังคมพหุวัฒนธรรมหันหน้าเข้าหากัน ซึ่งนายสัญญามองว่ายุทธศาสตร์การรบหรือวิธีการอื่นที่ทำมากว่า 10 ปีไม่ได้ผล

อย่างไรก็ตาม หากชนะการเลือกตั้ง สิ่งแรกที่จะทำคือการพัฒนาการคมนาคมให้จังหวัดยะลาเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ เช่น การสร้างสนามบินยะลา และรถไฟรางคู่เชื่อมต่อจากหาดใหญ่-ยะลา-สุไหงโกลก รวมทั้งการส่งเสริมอาชีพ โดยการปลูกพืชทางเลือก แก้ปัญหาราคายางตกต่ำ ซึ่งการคมนาคมก็จะสนับสนุนให้การส่งออกค้าขายดีขึ้นตามไปด้วย และหากทำให้การศึกษาดี อยู่ดีกินดีแล้ว นายสัญญาเชื่อว่าจะไม่มีใครที่คิดไม่ดี บ้านเมืองจะพ้นจากความขัดแย้ง พร้อมทั้งสัญญาว่าจะทำให้ราคายางดีขึ้นและดึงจุดเด่นของจังหวัดยะลาที่แม้จะไม่มีทะเล แต่มีปากบารา สร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตประชาชน


สัญญา สุวรรณโพธิ์.JPG

ส่วนเรื่องการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น นอกจากประสบการณ์ของตนเองแล้ว นายสัญญายังยืนยันว่าพรรคนี้เป็นพรรคของคนยะลาและทำเพื่อลูกหลานของชาวยะลาอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันนายวันมูหะมัดนอร์ ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเองก็เป็นอดีตผู้แทนราษฎรในเขตนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 อีกทั้งยังสร้างคุณประโยชน์แก่ชาวยะลาและสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้มากมายจึงมีประชาชนตอบรับพรรคประชาชาติอย่างล้นหลาม เห็นได้จากการปราศรัยในแต่ละครั้งที่จะมีผู้คนมาร่วมฟังไม่ต่ำกว่าหมื่นคน


อุตตม สาวนายน อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ.JPG

นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ทนายความที่ทำคดีช่วยเหลือชาวมุสลิมในสามจังหวัดภาคใต้มาอย่างยาวนานเหมือนยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาลมาตลอด 15 ปี จนได้รับฉายาว่า 'ทนายโจร' แต่วันนี้กลับผันตัวมาเป็นผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายอาดิลัน เล่าว่า เป็นอดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครยะลาตั้งแต่ปี 2547 และทำงานให้คำความเหลือประชาชนในพื้นที่ ทำให้เห็นถึงปัญหาส่วนใหญ่ของประชาชนที่มาร้องเรียกร้องการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่สุจริต และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตัวไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้

ซึ่งมองว่ามูลเหตุของปัญหาอยู่ที่ตัวบทกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ทำให้ต้องยกระดับหน้าที่ของตัวเองเพื่อเข้าไปแก้ไขมูลเหตุเหล่านี้ในรัฐสภา และสาเหตุที่เข้าร่วมทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากพรรคนี้มีความเป็นไปได้ในการเป็นรัฐบาลและหากต้องการที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชนก็ต้องอยู่ในฝ่ายที่มีโอกาสจะได้เป็นรัฐบาล ประกอบกับแนวนโยบายที่ลดความเหลื่อมล้ำและลดความขัดแย้งในสังคมตรงกับแนวคิดของตนที่ต้องการลดความขัดแย้งในพื้นที่ ความเชื่อ และชาติพันธุ์ให้คลี่คลายเช่นเดียวกันหรือมองอีกมุมคือเปลี่ยนวิธีการที่เคยทำมาตลอด 15 ปี คือ การแก้ปัญหาภาครัฐในฐานะศัตรู เข้ามาลองแก้ปัญหากระบวนการยุติธรรมของภาครัฐในฐานะมิตรดูบ้าง เชื่อในการทำงานของ พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และต้องการให้มีความต่อเนื่อง เพราะแรงหนุนเสริมสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จคือการยอมรับของคนในพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง


อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ.JPG

"ตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมา เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าไม่มีใครมาบังคับหรือกำหนดให้เราทำให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องได้...ผมสามารถที่จะยืนหยัดยืนยันในเจตน์จำนงของตนเองได้ว่าทุกพื้นที่ที่เราเดินหรือสถานะที่เรายืนอยู่ ณ วันนี้ในฐานะนักการเมือง เรามีเป้าหมายเดิมคือการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนในพื้นที่ไม่ใช่เฉพาะพี่น้องไทยมุสลิม พี่น้องไทยพุทธ หรือทุกศาสนาเราก็ต้องอำนวยความยุติธรรมให้" นายอาดิลัน กล่าว

นายอาดิลัน กล่าวเพิ่มเติมว่า 15 ปีที่ผ่านมา ตนทำหน้าที่เพียงแต่เป็นทนายความแก้ต่างให้กับคนที่ร้องเรียนและปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด แต่ไม่สามารถจะเข้าไปดูที่ต้นทางของกฎหมายว่าอะไรคือเจตน์จำนงที่แท้จริง อะไรคือเจตนาที่แท้จริง แล้วทำไมมีการบิดเบี้ยงของการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ ตนเชื่อว่าหากมีโอกาสได้เข้าไปทำหน้าที่ตรงนี้อย่างน้อยที่สุด ตนสามารถนำเสนอปัญหาที่ตนสัมผัสมาตลอด พร้อมกับนำเสนอข้อมูลที่มีจากทีมงานทนายความ และปรับแก้ปัญหาและอุปสรรค์ในการอำนวยความยุติธรรมในพื้นที่อย่างแท้จริง เพราะหากไม่นำเสนอปัญหาเข้าไป ก็่เหมือนแก้โจทย์ผิดและไม่สามรถแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง ดังนั้นหากได้เข้าไปทำงาน สิ่งแรกที่จะทำคือทบทวนกฎหมายที่มีการบังคับใช้ในพื้นที่หรือไม่ตอบรับการสภาวะที่แท้จริง เช่น การศึกษา, การอุดหนุนภาษี, หรือระเบียบปฏิบัติของผู้บังคับใช้กฎหมาย

tanun-พลังประชารัฐ พปชร.ลงพื้นที่ปราศรัยจังหวัดชายแดนใต้

นอกจากนี้ยังมีพรรคการเมืองที่ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นำเสนอนโยบายแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ เสนอการแก้ปัญหาด้วยการเมืองนำการทหาร ฟื้นฟูกระบวนการพูดคุยไม่จำกัดคนในวงพูดคุยเพียงแค่ฝ่ายความมั่นคง เช่น ตัวแทนภาคประชาชน ภาคการเมือง และมุ่งการพูดคุยที่การพัฒนา เพิ่มรายได้คนในพื้นที่แก้ไขปัญหาราคายาง ปาล์ม และประมง แก้ปัญหายาเสพติด ให้ทหารพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและดูแลความปลอดภัย และตรวจสอบการใช้อำนาจที่ผิด

พรรครวมพลังประชาชาติไทย มีนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสินค้าฮาลาล) เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาลให้ครบวงจร เปิดพื้นที่ท่องเที่ยว (Halal Tourism) เชื่อมต่อกับภูมิภาคต่างๆ และต่างประเทศ จัดงาน 'Halal Exhibition' ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในกิจการที่เกี่ยวกับฮาลาล เพื่อยกระดับผู้ประกอบการในพื้นที่ไปสู่ระดับฮาลาลโลก

และพรรคภูมิใจไทย นำเสนอนโยบายร่างกฎหมายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ SEC ที่มีต้นแบบมาจากกฎหมาย EEC ของรัฐบาลปัจจุบัน แต่ต่อยอดและปรับให้เหมาะสมกับปริบทของพื้นที่ และพัฒนาให้สามจังหวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างงานให้คนในพื้นที่ และใช้งบลงไปดูแลเรื่องความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดใต้กว่า 3 แสนล้านบาท หรือเปลี่ยนงบลับเป็นงบลงทุนให้ประชาชนมีส่วนร่วม