ไม่พบผลการค้นหา
สถานีโทรทัศน์กระทรวงกลาโหมเบลารุสแถลงว่า รัสเซียและเบลารุสได้ขยายเวลาการร่วมฝึกซ้อมรบทางการทหารในพื้นที่เบลารุส ท่ามกลางความกังวลที่ว่า รัสเซียกำลังกดดันเบลารุส ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของตัวเอง เพื่อการเข้าร่วมสงครามในยูเครน

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ทั้งรัสเซียและเบลารุสได้เพิ่มจำนวนอาวุธ กำลังทหาร และยุทโธปกรณ์พิเศษในการฝึกซ้อม และร่วมซ้อมรบโดยใช้ประสบการณ์ของรัสเซียในสงครามที่ยูเครน ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 ม.ค.) อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุสได้เดินทางเยือนค่ายทหาร ซึ่งกองกำลังของรัสเซียเข้ามาประจำการอยู่ เพื่อเข้าพบกับกำลังพลและหารือกันในประเด็นการซ้อมรบทางการทหาร

มีช่องทางผ่านทางแอปพลิเคชันเทเลแกรมอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งคอยจับตาความเคลื่อนไหวในเบลารุสระบุว่า เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8 ม.ค.) กองกำลังของรัสเซียจำนวน 1,400 ถึง 1,600 นาย ที่เดินทางมาถึงเมืองวีเต็บสก์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเบลารุส อย่างไรก็ดี Reuters ระบุว่าทางสำนักข่าวไม่สามารถยืนยันข้อมูลดังกล่าวได้

การประกาศข้อกำหนดการหยุดยิงเพียงฝ่ายเดียวของรัสเซีย หมดช่วงเวลากำหนดลงแล้วเมื่อวานนี้ เพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสของนิกายออร์โธดอกซ์รัสเซีย อย่างไรก็ดี ข้อประกาศหยุดยิงของรัสเซียกลับไม่ได้ส่งผลการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อการโจมตีและสังหารพลเรือนในยูเครน ทั้งนี้ มีรายงานว่ารัสเซียทำการถล่มยิงจนมีพลเรือนยูเครนเสียชีวิตเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างน้อย 2 ราย ในบริเวณตอนเหนือของคาร์คีฟและโดเนตสก์ตะวันออก

ในอีกทางหนึ่งเมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รัสเซียได้ออกมาอ้างโดยไม่มีหลักฐานว่า กองทัพของตัวเองได้สังหารกองกำลังของยูเครนไป 600 นาย ในการยิงโจมตีเมืองทางตะวันออกอย่างครามาตอร์สก์ ใกล้กันกับด่านหน้าของสงครามที่พื้นที่บักห์มุต เพื่อแก้แค้นจากการโจมตีของยูเครนในช่วงปีใหม่ ซึ่งสังหารกำลังของรัสเซียไปกว่าหลายร้อยนายในพื้นที่มาคียีฟกา อย่างไรก็ดี ทางการยูเครนได้ออกมาปฏิเสธรายงานของรัสเซีย โดยชี้ว่าข้ออ้างดังกล่าวเป็นเพียงแค่โฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวของ Reuters ในพื้นที่ยูเครนระบุว่า ไม่มีสัญญาณของความเสียหายโดยรัสเซียแต่อย่างใด

ในช่วงค่ำคืน ยูเครนกำลังประสบกับอากาศหนาวเหน็บอย่างรุนแรง ในขณะที่รัสเซียทำการโจมตีใส่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน จนประชาชนไม่สามารถเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าและความอบอุ่นได้ ทั้งนี้ สภาพอากาศอันโหดร้ายอาจทำให้การสู้รบเกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และอาจทำให้รัสเซียสามารถเคลื่อนย้ายเครื่องจักรกลหนักเข้ามายังยูเครนได้ง่ายขึ้น เนื่องจากโคลนที่สกัดกั้นการเคลื่อนกำลังของรัสเซียในยูเครนจะแข็งตัวขึ้นจากอากาศหนาว

มีความกังวลว่ารัสเซียกำลังจะใช้พื้นที่เบลารุส ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของยูเครน ในการเปิดฉากการผลักดันกำลังของตัวเองเข้ามายังยูเครนในระลอกใหม่ ทั้งนี้ ลูคาเชนโกเคยระบุว่า เขาจะไม่นำเบลารุสเข้าร่วมสงคราม อย่างไรก็ดี เบลารุสเคยถูกใช้เป็นฐานการเคลื่อนทัพของรัสเซียเพื่อเข้ารุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ทางการยูเครนระบุว่า รัสเซียยังคงใช้เบลารุสเป็นฐานในการยิงขีปนาวุธและโดรนเข้าโจมตีตัวเองอยู่ในปัจจุบัน

ในช่วงปลายเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้เดินทางไปเยือนกรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส ทั้งนี้ ปูตินเข้าพบกับลูคาเชนโกอยู่เป็นประจำ แต่มักเป็นการเข้าพบกันที่รัสเซีย อย่างไรก็ดี การเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ปูตินเยือนเบลารุสด้วยตัวเองตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งสร้างความวิตกว่าเขากำลังกดดัน เพื่อขอความช่วยเหลือทางทหารจากเบลารุสในยูเครน อย่างไรก็ดี กองทัพรัสเซียประสบกับความพ่ายแพ้อย่างน่าอัปยศอดสูหลายครั้ง และกำลังประสบกับภาวะชะงักงันในสมรภูมิยูเครนอย่างรุนแรง

หลายฝ่ายในยูเครนเตือนว่า ปูตินกำลังพิจารณาความพยายามในครั้งที่ 2 ตามรูปแบบการรุกรานจากทางเหนือเมื่อปีที่แล้ว เพื่อการเข้าตีกรุงเคียฟอีกครั้ง แม้ว่าพรมแดนยูเครนกับเบลารุสจะมีการป้องกันอย่างแน่นหนามากขึ้นแล้วก็ตาม นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนอ้างว่า รัสเซียเตรียมสั่งระดมทหารเกณฑ์มากถึง 500,000 นายในเดือน ม.ค.นี้ นอกเหนือจาก 300,000 นายที่ถูกเรียกตัวไปแล้วในเดือน ต.ค.ปีก่อน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าปูตินไม่มีความตั้งใจที่จะยุติสงครามลง


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2023/jan/08/russia-belarus-extend-military-drills-fears-new-push-ukraine?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR3wac-72Ve8CxLRdskU3PMpxqWhzR3wq_LDHZmuER11d7zzob9rGlHTSq8