แอน - จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานบริหารและผู้ก่อตั้งมูลนิธิข้ามเพศบันดาลใจ (Lift Foundation) และเหล่าสาวข้ามเพศรวม 40 คน รวมตัวถ่ายภาพเพื่อจัดนิทรรศการ '40 กะรัตคนข้ามเพศ' #เปลือยความจริงผู้หญิงเต็มตัว The Naked Truth: I'm very woman เผยเรือนร่างให้เห็นความเป็นผู้หญิงเต็มตัว เพื่อร่วมผลักดันกฎหมายเปลี่ยนเพศต้องเปลี่ยนคำนำหน้า เพื่อสิทธิความเท่าเทียมกับคนในสังคม 

สำหรับเหล่าผู้หญิงข้ามเพศที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของมูลนิธิข้ามเพศบันดาลใจครั้งนี้ ทุกคนล้วนเป็นคนมีชื่อเสียง มีความเก่ง และความสามารถหลากหลาย อาทิ แอน - จักรพงษ์ นักธุรกิจข้ามเพศพันล้าน, เจินเจิน บุญสูงเนิน นักร้องข้ามเพศ, นก ยลลดา นักการเมืองข้ามเพศ, ตุ้ม ปริญญา นักมวยข้ามเพศ, โกโก้ กกกร ข้ามเพศ 'ซุปตาร์' , ต๊อกแต๊ก ณฐอร ข้ามเพศหมอดู, บลอสซั่ม ชนัญชิดา ข้ามเพศเดอะเฟซฯ, หมอผักบุ้ง วลัญช์ภัทร์ ข้ามเพศนางงาม และอีกมากหมายหลายวงการรวม 40 คน

โดย 'แอน' เผยว่า สำหรับนิทรรศการครั้งนี้ เป็นนิทรรศการภาพนู้ดที่ว่าด้วยความเป็นสรีระของสุภาพสตรี พวกเราคือผู้หญิงข้ามเพศ และถือเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของโลกที่สาวข้ามเพศทั้ง 40 คน ร่วมเฉลิมฉลองสรีระที่สวยงาม ให้คนทั้งโลก และคนไทยทั้งประเทศได้เข้าใจกันว่า 80 ประเทศทั่วโลกที่สามารถเปลี่ยนคำนำหน้าได้เมื่อเปลี่ยนเพศ เพราะเขาแค่เกิดผิดร่าง เมื่อโตมาแล้วปรับร่างกาย ปรับเพศสภาพเข้ากับจิตใจเรียบร้อยแล้ว ก็จำเป็นจะต้องเปลี่ยนคำนำหน้า

สำหรับงานนี้ แอนเผยว่า สาวข้ามเพศทั้ง 40 คน แต่ละคนทุ่มหัวใจลงไปด้วยความรัก และศรัทธา ว่าตัวพวกเราคือผู้หญิงแท้จริงที่เกิดผิดร่าง แต่ตอนนี้เราสวยกันขนาดนี้แล้ว มีรูปร่างที่เป็นสรีระของผู้หญิงเต็มตัวร้อยเปอร์เซ็นต์แบบนี้ แล้วยังจะใช้นายกันอีกหรอ เพราะฉะนั้นถือเป็นการให้เกียรติกันในสังคม นั่นก็คือเมื่อเปลี่ยนเพศแล้ว ต้องเปลี่ยนคำนำหน้า ต้องเปลี่ยนเป็น 'นางสาว' ได้แล้วค่ะ

สำหรับนิทรรศการภาพถ่ายนู้ด '40 กะรัต คนข้ามเพศ' หมายถึงเพชรที่งามทั้งหมด 40 เม็ด ที่แต่ละคนเป็นผู้ทรงอิทธิพลในการที่มีบทบาทต่างๆ ในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านไหนก็แล้วแต่ มีทั้งหมอ นักร้อง นางงาม นางแบบ นักแสดง นักคิด นักเขียน นักบริหาร เพราะฉะนั้นทุกคนล้วนแล้วแต่ขับเคลื่อนประเทศได้

ด้าน เจินเจิน บุญสูงเนิน นักร้องข้ามเพศคนแรกของประเทศไทย เผยว่า หลังจากที่ได้ฟังโครงการนี้ก็ตัดสินใจทันทีเลย เพราะว่าเราเป็นผู้นำ เป็นคนรุ่นแรก ดังนั้นถ้าเราไม่ถ่าย เด็กๆ ก็คงไม่กล้าถ่าย และมีความตั้งใจมาก คงไม่มีใครคิดว่าคนอายุ 62 ปี จะมีความเซ็กซี่อะไร แต่เราไม่ได้ต้องการให้เห็นความเซ็กซี่ แต่ต้องการให้เห็นเรือนร่างของความเป็นผู้หญิงที่เป็น 'คุณแม่' มากว่า 40 ปีแล้ว รวมถึงน้องๆ ที่มาร่วมถ่ายภาพครั้งนี้ทุกคน ไม่ว่าจะ สูง ต่ำ ดำ ขาว อ้วน หรือผอม เราต้องการสื่อว่า ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เหมือนผู้หญิงทุกๆ คนบนโลกใบนี้

ขณะที่ นก - ยลลดา สวนยศ เผยว่า เธอนั้นได้เรียกร้องเรื่องคำนำหน้า นาย นางสาวมานานแล้ว ร่วม 20 ปี พยายามหาหนทาง หาวิธีการ หาการสื่อสารที่จะทำยังไง ให้เขาเห็นว่าเราเป็นผู้หญิงจริงๆ เธอเล่าว่า เคยคิดแล้วก็เคยพูดกับเพื่อนๆ ว่า "เดี๋ยวจะไปแก้ผ้าหน้าสภาฯ"

"นิทรรศการครั้งนี้นกว่ามันเป็นการผสมผสานระหว่างสิ่งที่เราอยากทำ คือการแก้ผ้า ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามันเป็นเรื่องของอนาจาร หรือการเรียกร้องไม้สุดท้าย แต่มันเป็นเรื่องของการแสดงถึงความเป็นผู้หญิง แต่ในขณะเดียวกัน ตัวคุณแอน และพี่ใหญ่ และสาวข้ามเพศทั้ง 40 คน ก็เสียสละตัวเอง ทำงานที่มันมีคุณภาพ เป็นงานอาร์ต ศิลปะ ที่ดีกว่าการไปแก้ผ้าหน้าสภาฯ ซึ่งงานศิลปะเหล่านี้ทำให้ทุกคนในสังคมได้เห็นว่า "เราเป็นผู้หญิงจริงๆ นะ" ทั้งจิตใจ และร่างกายของเรา เพราะถ้าเราไม่ทำวิธีนี้ ก็คงจะมีแต่หมอที่ได้เห็นว่าเราเป็นผู้หญิงยังไง"

"วันนี้อยากจะบอกทุกๆ ท่านว่า เราไม่ได้ยิ้มหน้าชื่นตาบานว่าเรามาแก้ผ้าให้ทุกคนดู แต่กว่าที่เราจะแก้ผ้า กว่าที่เราจะเปลือย เราผ่านอะไรมามากมายเหลือเกิน หลายคนที่มารวมตัววันนี้แสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราไม่ได้ต่างอะไรกับผู้หญิงทั่วๆ ไป เราก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง"

ด้าน 'ตุ้ม - ปริญญา เจริญผล' นักมวยข้ามเพศ เผยถึงการถ่ายภาพโปรเจกต์นี้ไว้ว่า ตอนแรกได้รับโจทย์มาว่าเป็นการถ่ายภาพเซ็กซี่ ก็คิดไว้ว่าอาจจะเป็นเซ็กซี่แนวสปอร์ต ใส่กางเกงมวยถ่าย แต่พอไปถึงหน้างานพอต้องทราบว่าถ่ายเปลือย ก็รู้สึกกังวล เพราะว่าเธอเป็นนักมวย สรีระอาจจะสู้ใครหลายๆ คนไม่ได้ ที่เขามาจากเวทีนางงาม นางแบบ แต่เธอมาจากเวทีมวย แต่ 'พี่นก' ก็ให้กำลังใจ เห็นว่าหลายคนก็กล้าถ่าย

"หลังจากที่ภาพออกมาแล้ว ก็ดีเกินคาด สวยในรูปแบบฉบับของนักมวยอย่างตุ้ม แล้วท่าทางคือต้องบอกว่าช่างภาพมืออาชีพมาก ทุกอย่าง ส่วนประกอบของรูปมันพอดีไปหมด รู้สึกโอเคมาก"

นิทรรศการครั้งนี้ตุ้มมองว่าแต่ละภาพไม่โป๊ หากคุณมองให้เป็นศิลปะ แล้วท่าทางที่เราถ่ายก็ไม่ได้เปิดเผยให้เห็นขนาดนั้น และภาพของตุ้มก็ไม่ง่ายเลยกว่าจะกระโดดให้ได้มุมที่พอดี มือปิดตรงช่วงหน้าอกพอดี

สำหรับการถ่ายภาพครั้งนี้ ตุ้ม ตีความว่า เธอเป็นผู้หญิงในแบบฉบับของเธอเอง "อย่างที่ทุกคนทราบกันว่าตุ้มมาจากนักมวย แต่ตุ้มก็ต้องการที่จะเป็นหญิง เหมือนกับคอนเซ็ปต์ Beautiful Boxer ของตุ้ม ก็คือ "สู้เยี่ยงชาย เพื่อเรือนกายเป็นหญิง" ดังนั้นตอนนี้ก็ทำให้เห็นว่าสิ่งที่ตุ้มสู้มา ตุ้มอาจจะสู้ในถนนของลูกผู้ชายก็จริง แต่ตอนนี้ร่างกายของตุ้มทุกอย่างที่เราใช้มวยไทยต่อสู้มา เพื่อแปลงร่างกายเป็นหญิงตอนนี้"

สำหรับนิทรรศการนี้ ภาพที่นำมาจัดแสดงแต่ละภาพ ผ่านการลั่นชัตเตอร์ของ ใหญ่ - อมาตย์ นิมิตภาคย์ ช่างภาพแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งเผยความรู้สึกในการทำงานครั้งนี้ว่า รู้สึกดีและตื่นเต้น เพราะว่าเป็นการถ่ายภาพที่ท้าทายพอสมควร การทำงานทุกอย่างราบรื่นดี เพราะว่าทุกคนก็ทำการบ้านมาอย่างดี แล้วก็รู้มุมสวยของตัวเอง ก็เลยทำให้ทำงานง่าย ส่วนครั้งนี้เราต้องการนำเสนอความเป็นผู้หญิงจริงๆ เต็มตัว แล้วก็พยายามถ่ายทอดความสวยงาม และอ่อนหวานของพวกเขาออกมาให้ได้

โดยนิทรรศการเปิดให้ชมฟรี ที่สยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้ (18 พ.ย.) จนถึงวันที่ 24 พ.ย. ซึ่งภายในงานจะมีการจัดจำหน่ายเสื้อมูลนิธิข้ามเพศบันดาลใจ และปฏิทินนู้ด 2020 รายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายจะนำเข้ามูลนิธิ Lift ข้ามเพศบันดาลใจ เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับคนข้ามเพศ