ไม่พบผลการค้นหา
รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชี้อย่านำผลการนับคะแนนล่าสุดของกกต. มาเป็นประเด็นการเมืองใส่ร้ายพรรคอื่น ยกทุกพรรคคะแนนเฉลี่ยเพิ่มตามความน่าจะเป็น

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่ออันดับที่ 1 พปชร.แสดงความคิดเห็นต่อการประกาศผลการนับคะแนนล่าสุดของ กกต. โดยระบุผ่านเฟซบุ๊ก Nataphol Teepsuwan - ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ

ข้อความทั้งหมดมีดังนี้

โดยปกติ พรรคการเมืองใหญ่แทบทุกพรรค และ ส.ส. ที่ลงสมัครในเขตนั้นๆ ลงทุนลงแรงมากในการหาเสียงแต่ละครั้ง ดังนั้น ทุกครั้งหลังการลงคะแนนเสียง ปิดหีบ ก็จะมีการส่งคนหรือตัวแทน ไปเฝ้าดูการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย แบบไม่กระพริบตา

เฝ้าจดคะแนนและแทบจะเป็นคะแนนที่ส่งเข้าพรรคในทันที ดังนั้น จะแพ้ หรือ ชนะ น่าจะทราบและเห็นผลกันชัดเจนในระดับหน่วยเลือกตั้งย่อยนั้นๆ โดยข้อมูลทั่วไป ก็จะมีใครได้คะแนนเท่าไหร่ มีคนมาใช้สิทธิ์ บัตรดี บัตรเสีย 

นี่คือคะแนนดิบระดับหน่วยเลือกตั้ง ที่คนจากแต่ละพรรค กับ กกต.เขตตรงกัน หรือคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ดังนั้นผมว่าทุกพรรคการเมือง ก็จะมีคะแนนที่ใกล้เคียงกับ กกต อย่างไม่ต้องสงสัย ยกเว้น เขตที่คะแนนพรรคที่ส่งเข้ามามี ชนะกลายเป็นแพ้ ทาง ส.ส. ผู้สมัคร และ พรรคนั้นๆ ก็จะร้องเรียนทันทีเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง

หลังปิดหีบลงคะแนน 24 มี.ค. กกต.แถลงผลการลงคะแนนร้อยละ 95 ว่ามีผู้มาใช้สิทธิ ร้อยละ 65.96 รวมจำนวน 33,775,230 คน 

และเมื่อ 28 มี.ค. กกต.แถลงผลการลงคะแนน 100 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้มาใช้สิทธิเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 74.69 จำนวนเพิ่มเป็น 38,268,375 คน 4 วัน มีบัตรเพิ่มเติมเข้ามา 4,493,145 ใบ โดยมีสัดส่วนคะแนนแต่ละพรรคดังนี้

1.พปชร จาก 7.94 เป็น 8.43 เพิ่มร้อยละ 6.23

2.พท จาก 7.4 เป็น 7.9 เพิ่มร้อยละ 6.71

3.อนค จาก 5.87 เป็น 6.27 เพิ่มร้อยละ 6.74

4.ปชป จาก 3.7 เป็น 3.95 เพิ่มร้อยละ 6.57

สัดส่วนคะแนนก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ทุกพรรคก็เฉลี่ยเพิ่มคะแนนกันอย่างความน่าจะเป็นครับ

ผมขออย่าพยายามใช้ประเด็น การเพิ่มขึ้นมาของคะแนนนั้น เป็นประเด็นการเมือง เพราะสัดส่วนคะแนนที่เพิ่มของพรรคพลังประชารัฐได้น้อยกว่า ทั้งพรรคเพื่อไทย และอนาคตใหม่ครับ

นายณัฏฐพล ทิ้งท้ายด้วยการติดแฮชแท็ก #หยุดสร้างความแตกแยกในประเทศไทย #ตั้งไม่ได้ #เลิกใส่ร้ายพรรคอื่น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :