เลือกตั้ง
'ชาติไทยพัฒนา' วางนโยบายพรรคเย็น ก้าวข้ามความขัดแย้ง
นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมแกนนำพรรคนำรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 67 คนมายื่นต่อ กกต. โดยชี้แจงว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง เป็นผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่ออันดับที่ 1 และพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. เป็นบัญชีรายชื่ออันดับ 8 ส่วนนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคไม่มีชื่อในบัญชีรายชื่อ แต่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคเพียงคนเดียว นอกจากนี้พรรคส่งผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตทั้งหมด 315 คน ตอนนี้สมัครเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงผู้สมัคร จ.สงขลา 2 เขตที่กำลังจะไปสมัครในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ส่งผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานครครบ 30 เขต
นายนิกร กล่าวว่า ปัญหาส่วนใหญ่ในช่วงนี้คือการติดตั้งป้ายหาเสียง ซึ่งแต่ละเขตมีผู้สมัคร ส.ส. จำนวนมาก แต่พื้นที่ที่ กกต. กำหนดให้ติดตั้งป้ายไม่เพียงพอและจะเกิดการแย่งพื้นที่กัน ซึ่งตอนนี้ทุกพรรคกำลังยุ่งกับการหาเสียงและการติดต่อประสานงาน แต่คาดว่าหลังจากนี้จะมีการฟ้องร้องหรือร้องเรียนกันเยอะอีกส่วนหนึ่งคือทางพรรคต้องเร่งติดต่อขอใช้สื่อท้องถิ่น ในแต่ละพื้นที่ให้ทันตามกำหนดเวลาที่จะปิดให้แจ้งความจำนงขอใช้สื่อในวันพรุ่งนี้ (8 ก.พ.)
ขณะที่การดีเบตประชันนโยบายที่จัดโดย กกต. พรรคชาติไทยพัฒนา นายนิกร กล่าวว่า พรรคจะส่งนายวราวุธ เข้าร่วมดีเบตกับพรรคอื่นๆ โดยพรรคจะยึดสโลแกนของนายบรรหาร ศิลปอาชา คือ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง เปลี่ยนแปลงปฏิรูปแผ่นดิน” เพราะพรรคมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความขัดแย้งสูง ดังนั้นพรรคนี้จะเป็นพื้นที่เย็น ให้คนที่ไม่ต้องการความขัดแย้งเลือก และมุ่งเน้นการทำนโยบายเจาะกลุ่มเป้าหมาย เช่น ภาคการเกษตร การศึกษา และการพัฒนาเมืองตามโมเดลสุพรรณบุรี ซึ่งคาดว่าจะนำมาใช้กับกรุงเทพมหานครได้ และเป็นจุกขายที่ทำใฟ้ชาวกรุงเทพฯ เลือกพรรคชาติไทยพัฒนา
ทั้งนี้ นายนิกร เปิดเผยว่า พรรคคาดหวัง ส.ส. 20-30 ที่นั่ง โดยไม่หวังชิงธงเป็นนายกรัฐมนตรีและไม่หวังเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ดังนั้นพรรคจึงหาเสียงไม่ยาก ประกอบกับการส่งผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตมากก็ย่อมมีโอกาสได้คะแนนเสียงมากขึ้นด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
