“ไวรัสโคโรนา” ลามกันไปทั้งโลก ไม่เว้นแม้กระทั่งไทย เมื่อเชื้อไวรัสปอดอักเสบ ที่มีจุดเริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น ของจีน ระบาดหนัก จนเมืองไทยมีผู้ติดเชื้อไวรัสไปแล้ว 19 ราย รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ถูกสังคมตั้งคำถามถึงมาตรการรับมือว่ายัง “เอาอยู่” หรือไม่ ท่ามกลางข่าวจริง - ข่าวปลอม ปลิวว่อนทั้งในโลกความจริงและโลกออนไลน์
กระทั่ง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข แห่งพรรคภูมิใจไทย บอกว่า เฟกนิวส์น่ากลัวกว่าไวรัส
ขณะเดียวกัน ก็กลายเป็นเรื่อง “ดราม่า” พอสมควรกับความล่าช้าของรัฐบาล เรื่องการไปรับคนไทยที่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น กว่าจะทางการจีนอนุญาตให้ไปรับคนไทยกลับประเทศ 1 ก.พ. ก็ถูกโลกโซเชียลด่าไปหลายยก
และไวรัสโคโรนา ยังกระทบไปถึงธุรกิจท่องเที่ยว หลังจากจีนสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ผู้ประกอบการเมืองท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวจีนหลายแห่งทั้ง กทม. เชียงใหม่ ภูเก็ต ถึงกับตั้งตัวไม่ติด
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น รถบัสนำเที่ยว หลายหมื่นคันไม่มีงาน จอดนิ่งสนิท โรงแรม ที่พัก ยอดจอง ยอดยกเลิกพุ่งพรวด
ยิ่งไทยกลายเป็นประเทศต้นๆ ที่พบเจอเชื้อไวรัส นักท่องเที่ยวจากตะวันตกยิ่งหวาดหวั่น เครื่องยนต์เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวได้ดับไปแล้ว
เช่นเดียวกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 แม้ฝุ่นจิ๋วในเมืองหลวงค่อยๆ จางหายไป แต่ค่าฝุ่น PM2.5 ในต่างจังหวัดยังสูงอยู่ในหลายจังหวัด ขณะที่รัฐบาลยังไม่มีแต่มาตรการตั้งรับ มาตรการเชิงรุกที่ทำให้ประชาชนสบายใจ หายใจ – หายคอคล่องขึ้น
ปีหน้าถ้าถึงช่วงฤดูหนาว อากาศนิ่ง ลมสงบ รับรองปัญหาฝุ่นจะกลับมาอีกรอบ
ปัญหาฝุ่น ปัญหาไวรัสโคโรนา ทำเอารัฐบาลเมาหมัด ต้องตั้งหลักกันพักใหญ่ ยังเจอโรคการเมืองแทรกซ้อนจากปมเสียบบัตรแทนกัน ก็ลุกลามไปทั้งอาคารรัฐสภา ไม่ต่างกับไวรัสโคโรนา
หลังจากปรากฏทั้งคลิป ทั้งภาพเสียบบัตรแทนกัน เริ่มจากกรณี นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ไม่อยู่ลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 โดยไปร่วมงานวันเด็ก ทว่า..กลับมีชื่อลงมติเห็นด้วย
จากนั้น “นาที รัชกิจประการ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ตามด้วย น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ และนายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ล่าสุด นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.พรรคพลังท้องถิ่นไท ถูก ส.ส.พรรคอนาคตใหม่นำคลิปมาแฉกรณีเสียบบัตรแทนกันอีก
ผลดังกล่าว ส.ส.ทั้งฝ่ายค้าน - รัฐบาล ต้องเข้าชื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่ากระบวนการตรากฎหมายงบประมาณ ปี 2563 ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
ผลสะเทือนจากพิษเสียบบัตรแทนกัน ใหญ่หลวงกว่าที่คาด เมื่อร่างกฎหมายงบประมาณ 2563 เปรียบเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจอีกตัวหนึ่ง
จากเดิมกฎหมายงบประมาณปี 2563 ก็ออกล่าช้าเกินเยียวยาอยู่แล้ว เพราะผลกระทบจากการตั้งรัฐบาลผสม 19 พรรค ช้ายิ่งกว่าหอยทาก ซ้ำมาถูกพิษเสียบบัตรแทนกันทำให้ร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวถูกแขวนไปอีก
มาตราที่มีปัญหาถูกจับได้ว่า “เสียบบัตรแทนกัน” ตั้งแต่ มาตรา 31-55 รวมกว่า 25 มาตรา ยังไม่แน่ชัดว่าจะแท้งทั้ง 25 มาตรา หรือ จะแท้งทั้งฉบับ หรือจะต้องมาให้สภาผู้แทนราษฎรโหวตใหม่ในมาตราที่มีปัญหา ทางออกอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย ไม่มีใครเถียงได้
และศึกหนัก - ศึกใหญ่ ที่กำลังมาถึง คือศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอก 1 นายกฯ บวก 5 รัฐมนตรี ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
งานนี้ 6 พรรคฝ่ายค้าน (หลังจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล) เตรียมขุดเรื่องเก่าตั้งแต่การ “ยึดอำนาจ” การทำงานในรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ไม่ถูกเปิดโปงในช่วง 6 ปี ตั้งแต่เป็นรัฐบาล คสช.มาถึงยุครัฐบาลผสมทหาร พ่วงพลเรือน จะถูกนำมากางออกให้สังคมได้เห็น
“วันมูหะหมัดนอร์ มะทา” หัวหน้าพรรคประชาชาติ เล่าว่า “ผมได้ฟังข้อมูลที่เพื่อนฝ่ายค้านเอามาให้ดูถึงขั้น โอ้โห..มันขนาดนี้เลยหรือ”
“ผมให้ความมั่นใจกับสื่อมวลชนและประชาชนทั่วประเทศ การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวังเพราะกว่าจะตัดสินใจอภิปรายท่านใดเราได้ตรวจสอบข้อมูลชัดเจน เราจึงตกลงว่าจะอภิปรายว่าอะไรบ้าง”
ขณะที่ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ บอกว่า “การอภิปรายชนะแพ้ อยู่ที่มือ ไม่ได้หวังคว่ำในสภา อยากให้สื่อถ่ายทอด ให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนได้เข้าใจและประชาชนจะตัดสินใจ กรณีล้มรัฐบาลเราล้มไม่ได้หรอกในฐานะฝ่ายค้าน แต่ประชาชนที่ฟังอยู่มีสิทธิที่จะล้มรัฐบาล”
“เราจะอภิปรายให้เห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลทำในหลายปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรให้ผู้ฟังได้ตัดสินใจ ส่วนใบเสร็จมัดน็อก ไปฟังเอาตอนอภิปรายดีกว่า มีแน่นอน”
ฝ่ายค้านขออภิปราย 3 วัน 3 คืน แล้วค่อยลงมติ แต่จะได้สมความปรารถนาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างฝ่ายค้าน - รัฐบาล เพราะแว่วว่ารัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้ซักฟอก 2 วันเท่านั้น
ทั้งปัญหาไวรัสโคโรน่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ปัญหาการเมือง กำลังยกระดับเป็น “มรสุม” จัดการ “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง