วันที่ 3 ตุลาคม ที่จังหวัดกระบี่ วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย กฤษ ศรีฟ้า อดีตส.ส.ภาคใต้ พรรคไทยรักไทย เสรีย์ นวลเพ็ง อดีตนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย นายไพศาล หลีเส็น อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ จังหวัดสตูล และสมาชิกพรรคเพื่อไทย พบปะกลุ่มนักธุรกิจแถบจังหวัดอันดามัน และกลุ่มอ่าวไทย

โดย วรวัจน์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการพบปะพูดคุยกันในกลุ่มอันดามัน และกลุ่มอ่าวไทยเกือบทุกจังหวัด อาทิ นักธุรกิจด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกร ตัวแทนกลุ่มชาวประมง ฯลฯ กว่า 100 คน ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่มต่างๆได้แลกเปลี่ยนกันถึงศักยภาพของแถบอันดามันและอ่าวไทย ที่ยังไม่ได้รับการดูแลจากภาครัฐเท่าที่ควร อาจจะมีโครงการเมกกะโปรเจคที่ดูสวยหรูเข้ามาบ้าง แต่ประชาชนในพื้นที่กลับยังประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีงบประมาณลงมาในจังหวัด หรือในระดับภาคปฎิบัติอย่างจริงจัง ดังนั้น จึงมีการพูดคุยและตกลงกันว่า กลุ่มที่มาพูดคุยกันในวันนี้ทั้งหมดจะจัดตั้ง “กลุ่มมหาสมุทรมหานคร” ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดที่มีพื้นที่อยู่ริมทะเลทั้งหมดขึ้นมาร่วมกันดึงศักยภาพของท้องทะเลมาพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประมง อาหารส่งออกจากการประมง การท่องเที่ยวทางทะเล กีฬาทางทะเล การพัฒนาธีมเมืองและสถาปัตยกรรมวัฒนธรรมเมืองให้เป็น Theme Park Mandmade ที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาพัฒนาในแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้น ฯลฯ

นอกจากนี้ ทางกลุ่มเรียกร้องขอให้พรรคเพื่อไทยมีแนวทางนโยบายที่เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ โดนเฉพาะการบริหารจัดการนำนักท่องเที่ยวเข้ามา เป็นระบบ ที่แน่นอน ซึ่งทางกลุ่มเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยถือเป็นสถาบันที่สร้างเศรษฐกิจให้ดีได้ และมีผลงานชัดเจน เขาเชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยในเรื่องของนโยบายที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริง อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มได้มอบให้นายกฤษ ศรีฟ้า ซึ่งเคยเป็นอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทยในพื้นที่ภาคใต้ และอดีตประธานหอการค้า มาเป็นผู้นำกลางของกลุ่มมหาสมุทรมหานคร โดยมีการผนึกกำลัง ตัวแทนภาคเศรษฐกิจและสายการเมือง จากทุกจังหวัดมาร่วมเป็นคณะทำงาน โดยตั้งต้นอยากพัฒนาเศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ อย่างจริงจัง

ต่อมาทางกลุ่มได้ย้ำเรียกร้องเรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดิน ทับซ้อนกับหน่วยงานรัฐ ซึ่งเราก็ได้มีการทำแอพพลิเคชั่นพนาเศรษฐกิจขึ้นเพื่อให้ประชาชนลงทะเบียนนำเข้าข้อมูลสำรวจปัญหาที่ดินของชาวบ้านทุกพื้นที่ เพื่อเริ่มต้นนับ1 ไปสู่การแก้ไขกฏหมายที่ดินให้มีความชัดเจนในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ขณะที่การท่องเที่ยว เราก็มีแนวนโยบายที่จะบริหารจัดการการนำนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆเข้ามาอย่างเป็นระบบอยู่แล้ว ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นเรื่องของภาคเอกชนดำเนินการฝ่ายเดียว เมื่อพูดถึงเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เราก็มีโยบายเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีทางด้านสุขภาพ สมัยใหม่ไปจนถึงการจัดโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกและอาหารอร่อยสำหรับดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งเราจะมีรูปธรรมในการดำเนินการไม่ใช่เพียงพูดลอยๆ เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่วางนโยบายมาจากความต้องการของประชาชน และต้องปฏิบัติให้ได้จริง

เมื่อถามว่า บางส่วนจับตาว่า ที่พรรคเพื่อไทยลงมาเคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดกระบี่ช่วงเดียวกับที่พรรคประชาธิปัตย์ลงมาเปิดตัวผู้สมัครพอดีนี้ เป็นความตั้งใจของเพื่อไทยที่จะประกาศสู้กับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ วรวัจน์ กล่าวว่า ความจริงวันนี้ต้องบอกว่า กระแสของคนที่ต้องการนโยบาย โดยเฉพาะนโยบายที่จะมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมีจำนวนมาก และตนคิดว่า คนต้องการการเปลี่ยนแปลงสูง ในขณะที่พรรคการเมือง ซึ่งเป็นพรรคการเมืองซีกรัฐบาลในปัจจุบันที่บริหารงานและดูแลประชาชนมาอย่างยาวนาน ก็ยังไม่สามารถตอบสนองประชาชนในส่วนของเรื่องเศรษฐกิจในภาคใต้ได้ ทั้งยังไม่มีนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ตรงกับความต้องการของคนในพื้นที่ อย่างแท้จริง และแม้จะบริหารงานมาอย่างยาวนานแล้ว ก็ยังไม่สามารถยกระดับความอยู่ดีกินดีให้แก่ประชาชนได้จริง

วรวัจน์ ระบุว่า จากการลงพื้นที่พบปะแกนนำกลุ่มต่างๆในหลายพื้นที่ทางภาคใต้พบว่า กระแสเรียกร้องพรรคเพื่อไทยมีเต็มพื้นที่ ทุกคนเรียกร้อง อยากเลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งที่เรายังไม่ได้จัดตัวผู้สมัครลงไปในพื้นที่ครบเลยด้วยซ้ำ อย่างเช่นวันนี้ ทางกลุ่มที่มาพบปะพูดคุยก็ได้เรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยส่งตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งในทุกเขตเลือกตั้งของภาคใต้ และอยากจะช่วยขยายเครือข่ายการเมืองให้กับพรรคเพื่อไทยอย่างกระตือรือร้น อย่างไม่เคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน

เมื่อถามต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์เพิ่งประกาศว่าจะกวาด 3 เก้าอี้ ส.ส.เขต จังหวัดกระบี่คืนทั้งหมด มองว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ วรวัจน์ กล่าวว่า เสียงที่เราได้ยินจากประชาชนทางนี้พูด เขาบอกเขาต้องการพรรคที่เป็นสถาบันที่สามารถแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจได้ ไม่ใช่พรรคที่เป็นสถาบันทางการเมืองเท่านั้น เพราะการเมืองอย่างเดียวไม่ทำให้อิ่มท้อง แต่เศรษฐกิจต่างหากที่จะทำให้เขาอยู่รอด 

วันนี้ ตนเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่เป็นความหวังที่จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจและตอบสนองตรงต่อความต้องการของประชาชน ได้จริงจัง คิดนโยบายที่มาจากความต้องการของคนในพื้นที่ได้มากที่สุด อย่างวันนี้ที่ประชุมเสนอเรื่องหนึ่งชุมชน หนึ่งวิสาหกิจ เราก็เห็นว่าตรงกับนโยบายของเราอยู่แล้วที่จะยกระดับการพัฒนาผลิตผลเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อเพิ่มราคาเพิ่มรายได้ ประชาชนจากกลไกตลาดและศักยภาพของพื้นที่และเดินหน้าไปสู่การส่งออกผลิตภัณฑ์ประชาชนสู่ตลาดโลก เราเน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาการต่อยอดสินค้าเกษตรเป็นอาหาร และเพื่ออุตสาหกรรมอยู่แล้วด้วย ทั้งนี้ วันนี้ ผู้ประกอบการจังหวัดภูเก็ตได้นัดหมายให้เราไปพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต 

ต่อด้วยจังหวัดพังงาด้วย ซึ่งหลังจากการรับฟังตนจะนำสิ่งที่ได้พูดคุยเสนอต่อพรรคเพื่อผลักดันในเกิดการพัฒนาร่วมกันต่อไป