พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงกันอย่างน้อย 2-3 จุด รวมทั้งกรณีคนร้ายนำวัตถุต้องสงสัยมาซุกไว้ที่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก็มีความเชื่อมโยงกัน ยกเว้นเหตุระเบิดที่ถนนพระราม 9 ซอย 57/1 ท้องที่ สน.หัวหมาก ตรงนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเชื่อมโยงกันกับเหตุระเบิดในจุดอื่น อย่างไรก็ตามต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญ 

สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นผู้มีประสบการณ์ และมีการเตรียมการมาอย่างดี โดยมีการสำรวจพื้นที่ก่อนก่อเหตุ เบื้องต้นการสืบสวนสอบสวนยังไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ประเด็นใดเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องการเมืองและกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะยังไม่มีความชัดเจน และตนเองยังไม่ได้รับรายงานเหตุการณ์ทั้งหมด 

สำหรับผู้ต้องสงสัย 2 รายที่สามารถจับกุมได้ที่ จ.ชุมพร เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนยังไม่ได้สอบปากคำ แต่ทราบว่ามีพื้นเพมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังก่อเหตุก็เดินทางกลับพื้นที่ นอกจากนี้จากแนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนเมื่อปี 2559 ทั้งนี้ มองว่าในการก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มเดิมๆ แต่มีการใช้คนหน้าใหม่มาก่อเหตุ ยืนยันว่าไม่หนักใจ เพราะตำรวจมีประสบการณ์ แต่ก็ไม่ประมาท

กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่าการก่อเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในในช่วงที่มีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เป็นการยกระดับเหตุการณ์หรือไม่

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ยังไม่มีความชัดเจน ขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามพยายามปล่อยข่าวสร้างความตื่นตระหนก ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายความมั่นคง สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนคลี่คลายคดี โดยมี พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าชุด มีคณะทำงานประกอบด้วยทีมสืบสวนชุดเดียวกับที่เคยคลี่คลายคดีวางระเบิดรพ.พระมงกุฏ และเหตุวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม