'มิมี่' สุดทิดา อนุสิน เจ้าของตำแหน่ง “Miss Laos 2018” หรือ “นางสาวสาวลาว ประจำปี 2561” วัย 22 ปี ที่พกพาความสูง 170 เซนติเมตร และคุณสมบัติที่เพียบพร้อมด้วยความความงาม และปฏิภาณไหวพริบ จากเมืองสะหวันนะเขต ที่พิสูจน์ผ่านการตอบคำถามบนเวทีการประกวดรอบตัดสินแบบคมกริบ บาดลึกจนชนะใจกรรมการ ภาพลักษณ์ของเธอ ยังสะท้อนนัยยะหนึ่งให้สังคมรับรู้ได้ว่า เวทีนางสาวลาว เป็นเวทีอันทรงเกียรติ และทัศนคติของผู้เข้าประกวดไม่ได้โบราณล้าหลัง อีกทั้ง ยังเป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้เกิดขึ้นในสังคม ด้วยการยกระดับตนเอง และยังสามารถมีส่วนช่วยยกระดับประเทศให้สวยงามตามไปด้วย ซึ่งหลังได้รับตำแหน่งเธอได้รับโอกาสในชีวิตมากมาย ทั้ง การเข้าสู่วงการบันเทิงที่ลาว และประเทศไทย ได้รับความรู้ความสามารถใหม่ๆ มาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น มีงานในวงการบันเทิง เป็นพรีเซ็นเตอร์ เดินแบบ ที่มีคุณค่ามากกว่าไปกว่านั้น นางสาวลาว ดีกรีปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ สาขาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว บอกว่า คือการได้รับรางวัลจากเวทีประกวดเป็น “ทุนการศึกษาจนจบระดับปริญญาโท ที่ ประเทศจีน” ทำให้มีโอกาสได้ศึกษาในระดับที่สูงขึ้นในประเทศที่มีจุดเด่นในเรื่องของเศรษฐกิจ เพื่อนำความรู้กับมาพัฒนาประเทศ

• 'มิมี่' สุดทิดา อนุสิน Miss Laos 2018

มิมี่ บอกว่า เวทีนางสาวลาวสร้างความแตกต่างจากเวทีนางงามทั่วไป ด้วยการส่งเสริมให้หญิงลาวมีการศึกษาที่สูงขึ้น มอบรางวัลเป็นทุนการศึกษาให้กับผู้ได้ครองตำแหน่งนางสาวลาว และรองอันดับต่างๆ ไปศึกษาต่อประเทศ ทั้งที่ประเทศจีน ประเทศไทย และประเทศเวียดนาม คือ จุดเด่นสำคัญ ทำให้การประกวดนางงามได้รับความสนใจมากขึ้นจากอดีตหลายเท่าตัว โดยไม่จำเป็นต้องโชว์เนื้อหนังมังสา จนนางงามถูกมองว่าเป็นวัตถุทางเพศ

ซึ่งรางวัลที่เธอได้ กับ ทุนการศึกษา เธอก็อยากนำสานต่อการศึกษาของตนเอง หลังจากจบปริญญาตรีที่ประเทศลาวเพื่อยกระดับความรู้ของตนเองให้มากขึ้น โดยไปแลกเปลี่ยนความรู้ ที่จีน ซึ่งเป็นประเทศที่ความโดดเด่นด้านเศรษฐกิจในตอนนี้ นำมาพัฒนาเศรษฐกิจ บ้านเมืองของตนเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม ตั้งใจเรียนต่อด้านการบริหารธุรกิจ เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ ส่วนตัวเห็นความสำคัญด้านเศรษฐกิจของประเทศ ประเทศลาวควรบุกเบิก หรือเพิ่มการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจให้มากขึ้น เพื่อเติบโตให้ทันกับประเทศอื่นๆ ในโลกนี้”

เธอมีความคิดว่า เรื่องของเศรษฐกิจที่ดีกับศิลปวัฒนธรรมต้องไปด้วยกันได้ เพราะในขณะที่เราพัฒนาเศรษฐกิจให้ดี ก็มุ่งรักษาศิลปวัฒนธรรมที่ดีของเราให้งดงามเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ยกตัวอย่างเรื่องการท่องเที่ยว หากเรามีการพัฒนาดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาท่องเที่ยวประเทศลาวมากขึ้น ผู้คนที่เข้ามาจะได้สัมผัส และซึมซับวัฒนธรรมลาวที่สืบสานกันมาตั้งแต่โบราณ เป็นเอกลักษณ์ที่เราตั้งใจรักษาเอาไว้เคียงคู่กับประเทศของเรา ไปบอกต่อสู่โลกภายนอก”

เวทีนางสาวลาว ไม่มีการใส่ชุดว่ายน้ำ แต่เวทีมิสยูนิเวิร์สลาว มิสเวิลด์ลาว เริ่มมีการใส่บ้างแล้ว การใส่ชุดว่ายน้ำเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เห็นสะรีระของผู้เข้าประกวดมากขึ้น แต่อาจไม่ใช่เรื่องสำคัญเสมอไป เป็นนางงามต้องมีรูปร่างที่ดีสวยจากภายนอกสู่ภายใน มีหน้าตาสวยงาม มีความรู้ มีจิตใจที่ดี ปัจจุบันนี้วงการนางงามในประเทศลาวแตกต่างจากในอดีตมากเมื่อก่อนเน้นคนสวยอย่างเดียว แต่ปัจจุบันนี้คนสวยต้องมีความรู้ความสามารถด้วย นอกจากเน้นความสำคัญของศิลปวัฒนธรรมประเพณี ยังเน้นความสำคัญเรื่องการศึกษาเป็นหลักด้วย การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญทำให้ชีวิตของคนเราดีขึ้น ดั่งจะเห็นได้จากการประกวดนางสาวลาว รางวัลที่ 1 ถึง ที่ 5 คือใน 5 คนสุดท้ายของมิสลาว 2018 ให้รางวัลเป็นทุนการศึกษาไปศึกษาต่อต่างประเทศ ที่ประเทศจีน ประเทศไทย”

“รู้สึกเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่เวทีประกวดนางงามให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา ผู้หญิงทุกคนไม่เฉพาะผู้หญิงประเทศลาว ต้องมีการยกระดับการศึกษา เมื่อเรามีความรู้ที่ดีก็สามารถนำไปช่วยพัฒนาประเทศได้มากขึ้น ความนิยมต่อการประกวดนางงามในประเทศลาวทุกวันนี้มีเพิ่มมากขึ้น วัยรุ่นหลายคนอยากประกวดนางงามมากขึ้น มีความกล้าแสดงออกความสามารถมากขึ้น หลายคนหันมาชื่นชมนางงามลาวมากขึ้น”

ในฐานะที่เป็นมิสลาว 2018 มิมี่ บอกว่า การวางตัวให้เหมาะสม เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในยุคที่สื่อโซเชียลมีบทบาทสำคัญกับชีวิตประจำวันของผู้คน

“ทุกๆ คนมองมาที่เรามียึดเราเป็นแบบอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น หรือเยาวชน ยึดเป็นต้นแบบ เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการวางตัวในสังคม และรักษาวัฒนธรรมประเพณีของลาว เป็นตัวอย่างทางด้านการศึกษา นำเสนอหรือเผยแพร่ให้เยาวชนหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ นางงามลาวกับเรื่องศิลปวัฒนธรรมต้องเคียงคู่กันไป เพราะวัฒนธรรมลาวก็อยู่กับคนลาวมาโดยตลอดเราเป็นนางงามก็ควรรักษาวัฒนธรรม และเผยแพร่ให้วงกว้างได้รับรู้อัตลักษณ์ประจำชาติ ซึ่งเป็นสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย”

“สื่อโซเชียลทุกวันนี้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากทุกคนและมิมี่เองก็ใช้ตลอด อาจจะขาดไม่ได้เลยใช้ทุกวัน แต่เราควรใช้ให้เกิดประโยชน์ นำเสนอในสิ่งที่สร้างสรรค์ อาทิ การทำอาหาร การปลูกต้นไม้ การรักษาโลกร้อน การเผยแพร่ด้านการศึกษา เกี่ยวกับสิ่งที่ดีบนเวทีนางงาม เป็นการให้ความรู้กับคนที่เขาไปชม ใช้สื่อโซเชียลอย่างมีสติ คิดก่อนทำ เพราะเป็นสื่อที่มีอิทธิพลมากต่อชีวิตของเรา คิดให้ดีก่อนโพสต์ถ้าเราทำอะไรผิดพลาดไปอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา ส่งผลต่ออนาคต หน้าที่การงานต่างๆ ได้รับผลกระทบ”

• แคทรีโอน่า เกรย์ มิสยูนิเวิร์ส 2018

หากมองการประกวดนางงามของประเทศอื่นๆ หลังคว้าตำแหน่งสิ่งที่พวกเธอได้รับ ก็ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเหล่าสาวงามเช่นกัน อย่าง ประเทศฟิลลิปปินส์ ที่การค้นหาสาวงามเปรียบเป็นวาระแห่งชาติของประเทศ มีการจัดตั้งโรงเรียนสอนเพื่อการผลิตนางงาม มีการประกวดเวทีน้อยใหญ่ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ เพราะเวทีประกวดเหล่านั้นคือโอกาสสำหรับหญิงสาว ที่จะได้รับรางวัลเป็นเงิน หรือสิ่งของ และถ้าโชคดีบางคนก็อาจจะได้เข้าสู่วงการบันเทิง 

ศาสตราจารย์ Wendell Capili ผู้เขียน Mabuhay to Beauty หนังสือตีแผ่วงการนางงามจากมุมมองทางเศรษฐกิจและสังคม ระบุว่า การประกวดนางงามสามารถเลื่อนสถานะทางสังคมให้สตรีฟิลิปปินส์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมทำให้พวกเธอมีฐานะทางการเงินและโอกาสในชีวิตดีเป็นเงาตามตัว 

• น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016

ในส่วนของประเทศไทย การประกวดนางงาม เพิ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ใน 4-5 ปี ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เวทีนางงามบ้านเรา หลังได้รับตำแหน่งสาวงามจะได้รับโอกาสเข้าสู่วงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น นางแบบ หรือ นักแสดง อย่างเช่น น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ที่ชีวิตเปลี่ยนหลังคว้าตำแหน่ง จากเด็กธรรมดาคนหนึ่ง ในครอบครัวฐานะปานกลาง แบ่งเบาภาระครอบครัวด้วยการทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และกลายมาเป็นนางงามนักสู้ขวัญใจแฟนนางงามทั้งในไทย และฟิลิปปินส์ ที่ปัจจุบันเธอเอง ก็ได้มาโลดแล่นในวงการบันเทิง ทั้ง การเป็นนางแบบ และนักแสดง

• นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018

นอกจากนี้ การประกวดนางงามในประเทศไทย ยังยกระดับคุณภาพชีวิต และเป็นกระบอกเสียงของผู้หญิงในการทำกิจกรรมต่างๆในสังคม อย่าง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ หลายคนมักจะถามเธอว่า หน้าที่การงานมั่นคงมากพอแล้ว ทำไมถึงตัดสินใจมาลงประกวดในสายนางงามอีก เธอบอกว่า นั่นเพราะผู้หญิงเราสามารถเป็นอะไรได้หลายอย่าง ถ้าตั้งใจจะลงมือทำ ก่อนหน้านี้เธอเป็นเด็กเรียนไม่เก่ง แต่อยากพิสูจน์และเอาชนะใจตัวเองจนสามารถเรียนต่อที่เมืองนอกได้ เธอเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่ห้อมล้อมไปด้วยกลุ่มผู้ชาย นัยแฝงสำคัญคือแม้เธอจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เมื่อมีความสามารถ ใครๆ ก็อยากร่วมงานด้วย