วันที่25 ม.ค. 2566 ที่อาคารรัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ เป็นผู้แทนรับหนังสือ เรื่อง ขอให้เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีและสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
สืบเนื่องจากที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นอภิปราย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ 151 ครั้งที่ผ่านมา มีข้อกล่าวหาที่เกี่ยวเนื่องหลายประการ ข้อกล่าวหาส่วนหนึ่งได้ยื่นต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในการไต่สวนเอาผิด เช่น เรื่องที่ดินเขากระโดง
"พรรคร่วมฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน เราไม่ได้มีความอาฆาตมาดร้ายใดๆ กับผู้ที่ถูกยื่น ท่านก็มีสิทธิไปชี้แจง"
โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคประชาชาติ อธิบายข้อกล่าวหา อ้างสาระสำคัญของมาตรา 144 แห่งรัฐธรรมนูญ ระบุไว้ว่า ส.ส.หรือคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เป็นผู้เสนอตั้งงบประมาณกระทรวงคมนาคม และการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ จะมีส่วนใช้งบประมาณไม่ได้ ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม แต่ ศักดิ์สยาม ยังเป็นรัฐมนตรี และ ส.ส.อยู่ ทั้งได้มีการตั้งงบประมาณของกระทรวง และในบางปี เช่น 2564 ก็ได้เป็นกรรมาธิการงบประมาณฯ ด้วย ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ของความผิด
ด้วยข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีมูลน่าเชื่อถือว่า ศักดิ์สยาม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นในบริษัทดังกล่าว ได้เข้าเป็นคู่สัญญากับ หน่วยงานภาครัฐในกระทรวงคมนาคมทั้ง กรมทางหลวง ทางหลวงชนบท การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นจำนวนเงินงบประมาณจำนวนมากต่อเนื่องกันหลายสัญญา และได้รับงานทุกปีรวมแล้วหลายพันล้านบาท ถือว่าการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 144 อย่างชัดเจน
ด้าน ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุเพิ่มเติมว่า ศักดิ์สยาม กระทำความผิดฐานจงใจปกปิดทรัพย์สินของตนในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งได้งานจากกระทรวงคมนาคมใน จ.บุรีรัมย์ อยู่หลายงาน ซึ่งถือเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์อย่างชัดเจน เนื่องจาก ศักดิ์สยาม ยังมีฐานะรัฐมนตรีอยู่
"ครั้งหนึ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยความเป็นเจ้าของหุ้นสื่อของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่า ธนาธร ไม่ได้โอนหุ้นจริง ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการวินิจฉัยเรื่องนี้อย่างแน่นอน"
ด้าน พัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เคยอภิปรายกล่าวหา ศักดิ์สยาม ในกรณีจัดสรรงบกรมทางหลวงชนบท ได้กล่าวถึงเหตุที่ตนถูก ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคเดียวกับรัฐมนตรี ศักดิ์สยาม ด่าว่าโง่ ตนขอย้ำว่าในการอภิปรายมาตรา 152 ที่จะถึงนี้ ตนจะเปิดเผยคลิปของสมาชิกฯ คนดังกล่าว ที่จะทำให้เห็นชัดว่า ใครเป็นคนโง่กันแน่