สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก กลุ่ม Re-solution นำโดย พริษฐ์ วัชรสินธุ , ปิยะบุตร แสงกนกกุล , ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ และคณะผู้ริเริ่มเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เพื่อยื่นรายชื่อประชาชนที่สนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จำนวน 150,921 รายชื่อ
โดย สมบูรณ์ กล่าวว่า ร่างได้เสนอมาแล้วนั้น ได้รับการพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และหลังจากนี้จะนำรายชื่อผู้เสนอกฎหมายทั้งหมดเข้าตรวจว่าถูกต้องหรือไม่ และเมื่อตรวจสอบเสร็จก็จะเผยแพร่ก่อนพิจารณาจะบรรจุเข้าสู่วาระต่อไป
ด้าน พริษฐ์ กล่าวว่า ตราบใดที่เรายังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 อำนาจระบบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สามารถควบคุมกลไกรัฐก็ยังคงอยู่ ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะสร้างการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยและตอบสนองความต้องการของประชาชน
แม้สัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีการคว่ำร่างแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญ ไป 12 ฉบับ แต่ประชาชนก็ไม่ย่อท้อ ได้รวบรวมรายชื่อเพื่อเปิดประตูให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้ง เพื่อสกัดกั้นระบบประยุทธ์ โดยยกเลิกอำนาจของวุฒิสภาการ, ปฏิรูปที่มาของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ รวมถึงการยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและการลบล้างรัฐประหาร
ด้าน ปิยบุตร กล่าวว่า การเสนอแก้ไขเพิ่มเติมในครั้งนี้ จะเป็นตัวกระตุ้นเตือนจิตสำนึกของรัฐสภา ไม่ใช่ปัดตกอย่างง่ายดายเหมือนครั้งที่ผ่านมา หากวุฒิสภาไม่อยากให้แก้ไขก็แสดงให้เห็นว่าระบบมีปัญหาเพราะผู้แทนเข้ามาทำงานแล้วไม่สามารถทำในสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องได้
พร้อมกันนี้ ปิยบุตร ชี้แจงด้วยว่ากลไกรัฐธรรมนูญวางไว้มาตรา 256 กำหนดให้มี 84 ส.ว.ต้องเห็นชอบด้วยเป็นอุปสรรคการแก้รัฐธรรมนูญ และหาก สว.คว่ำ-ขัดขวางเสียงประชาชนบ่อยครั้ง นั่นจะแสดงให้เห็นเวลาสุดท้ายของวุฒิสภาใกล้มาถึงเรื่อยๆ ซึ่งสะท้อนว่าวุฒิสภาปิดประตูไม่ให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
โดยจะต้องชี้แจงเหตุผลการไม่รับร่างฯฉบับประชาชนด้วย หากวุฒิสภาคว่ำร่างฯ รีโซลูชันยืนยันจะรณรงค์กดดันไปยังวุฒิสภา ด้วยการเสนอร่างกหมายภาคประชาชนต่อไป พร้อมตั้งข้อสังเกตด้วยว่าประเทศไทยจะปกครองด้วยเสียงส่วนน้อยจาก 250 ส.ว.ที่ คสช.แต่งตั้งอย่างนั้นหรือ ส่วนการแก้เฉพาะระบบเลือกตั้งที่รัฐสภารับหลักการ ไม่ใช่การแก้ปัญหาการเมืองที่ต้นตอ แต่เป็นการแก้เพียงประโยชน์ของสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น