จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้รับประสานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฝผ.) เขื่อนรัชชประภา ว่าบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ JDA A-18 ให้แก่โรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามกำลังผลิตปกติ จึงมีความจำเป็นจะต้องระบายน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และเสริมสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ ในระหว่างวันที่ 29 ส.ค. - 7 ก.ย. 2563 รวม 10 วัน จากเดิมวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร
วิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ปริมาณน้ำที่สูงขึ้นบริเวณท้ายเขื่อนรัชชประภา ประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อนรัชชประภา ให้ระมัดระวังปริมาณน้ำที่สูงมากขึ้น อาจเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มริมน้ำ คลองแสง คลองยัน คลองพุมดวง แม่น้ำตาปีบริเวณอำเภอพุนพิน และการสัญจรทางเรือให้สวมเสื้อชูชีพทุกคน ในระยะ 10 วันนี้ (29 ส.ค. – 7 ก.ย. 2563)
สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังบริเวณคลองพุมดวง และแม่น้ำตาปี ให้เคลื่อนย้ายกระชังปลาหลบกระแสน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้น และอุณหภูมิของน้ำที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำของเกษตรกรได้
ทั้งนี้ ให้อำเภอแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทราบ และหากเกิดสาธารณภัยขึ้น ให้รายงานสถานการณ์เหตุด่วนให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯทราบโดยเร่งด่วนทางหมายเลขโทรศัพท์/โทรสาร 0-7727-5848 และทางวิทยุสื่อสาร 'ศูนย์ชัยพฤกษ์' ความถี่ 153.775 MHz /151.150 MHz จนกว่าสถานการณ์จะยุติ
