ทั้งนี้ ตามการระบุของหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่อัฟกานิสถาน มีการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มีประชาชนอีก 100 ราย ที่เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บในโรงพยาบาลประจำภูมิภาค ในขณะที่ กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ระบุว่า มากกว่า 90% ของผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งก่อนๆ ในอัฟกานิสถานเป็นผู้หญิงและเด็ก
ในรายงาน USGS ระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด เกิดขึ้นห่างจากเมืองเฮรัต เมืองใหญ่อันดับ 3 ของอัฟกานิสถาน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนอิหร่านไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 30 กิโลเมตร โดยเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (14 ต.ค.) ได้สร้างผลกระทบในพื้นที่ซินดาจัน เขตชนบทที่อยู่ห่างจากเมืองเฮรัตไปประมาณ 40 กิโลเมตร
แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ได้ส่งผลให้บ้านเรือนทั้งหลังซึ่งเปราะบางเกินกว่าจะรับแรงแผ่นดินไหวได้พังทลายลง จนเหลือเพียงซากปรักหักพัง ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ได้ใช้พลั่วและมือเปล่า ขุดไปตามซากปรักหักพังเพื่อค้นหาผู้สูญหาย
ยาห์ยา คาลิลาห์ หัวหน้าโครงการอัฟกานิสถานของ Medicines Sans Frontiers บอกกับสำนักข่าว AFP ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งที่ 3 นี้ น่าจะมีตัวเลขที่น้อย เนื่องจากผู้คนกำลังนอนหลับอยู่ข้างนอกในเต็นท์แล้ว “ในแง่ของจิตวิทยา ผู้คนตื่นตระหนกและบอบช้ำทางจิตใจ” คาลิลาห์กล่าว “คนไม่รู้สึกปลอดภัย ผมรับรองได้เลย 100% ว่าจะไม่มีใครกล้านอนในบ้าน”
ในขณะที่อากาศกำลังหนาวเย็นลงในอัฟกานิสถาน กลุ่มตาลีบัน ซึ่งปกครองอัฟกานิสถานมามาตั้งแต่ปี 2564 มีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถบริหารจัดการเต็นท์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้นานกว่า 1 เดือน นอกจากนี้ อัฟกานิสถานต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ นับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันยึดอำนาจการปกครองของรัฐบาลพลเรือน ส่งผลให้ความช่วยเหลือที่มอบให้กับรัฐบาลโดยตรงจากประชาคาโลกต้องหยุดชะงักลง
อัฟกานิสถานมักได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเทือกเขาฮินดูกูช เนื่องจากประเทศแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้รอยต่อ ระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียและอินเดีย ทั้งนี้ เมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว จังหวัดปักติกาของอัฟกานิสถานได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ริกเตอร์ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 1,000 ราย และทำให้ผู้คนหลายหมื่นคนไร้ที่อยู่อาศัย
ที่มา: