วันนี้ (13 พ.ย.) เกิดความวุ่นวายในตลาดขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ย่านสี่แยกคอกวัว เนื่องจากราคาสลากฯ ขายส่ง ตกลงมาอยู่ที่เล่มละ 6,000 บาท จากปกติอยู่ที่เล่มละ 7,000-7,500 บาท (1 เล่ม มี 100 ฉบับ) ทั้งที่ เมื่อวานนี้ ราคาขายส่งสลากฯ ยังอยู่ที่เล่มละ 7,000 บาท ส่งผลให้ผู้ค้าฯ แบกรับผลขาดทุนเล่มละ 1,000 บาท 

ผู้ค้าสลากฯ ทั้งขายส่งและขายปลีก ย่านตลาดคอกวัว เปิดเผยทีมข่าว 'วอยซ์ ทีวี' ว่า ขายล็อตเตอรี่ที่ย่านนี้มาหลายปี เหตุการณ์วันนี้เป็นครั้งแรกที่ราคาล็อตเตอรี่ ลงมาอยู่ที่ใบละ 60 บาท ทั้งที่เมื่อวานยังอยู่ที่ใบละ 70 บาท และตอนนี้ยังงง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะต้นทุนล็อตเตอรี่ที่ซื้อจองมาจากกรุงไทยกับไปรษณีย์ไทย อยู่ที่ใบละ 70.40 บาท และถ้าซื้อมาจากยี่ปั๊วอาจจะสูงกว่านี้นิดหน่อย คือถ้าตามโควต้าที่ซื้อจากกรุงไทยกับไปรษณีย์ไทย รายละ 5 เล่ม (500 ใบ) รวมกันก็ประมาณ 1,000 ใบ ขายหมด ก็จำต้องไปรับมาจากยี่ปั๊วมาขายด้วย ซึ่งก็ต้องถั่วเฉลี่ยต้นทุนกันไป  

"อยากฝากถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า เวลาล็อตเตอรี่ราคาถูก ทำไมไม่มีคนซื้อ แต่พอล็อตเตอรี่แพง ก็ซื้อกัน แล้วก็มาว่ากันว่า แผงที่คอกวัวขายแพง" 

ขณะที่ ผู้ค้าอีกรายให้ข้อมูลว่า เมื่อเช้า (13 พ.ย.) ยังขายเล่มละ 7,000 บาท แต่พอบ่ายโมง ต้องยอมลดราคาล็อตเตอรี่เหลือเล่มละ 6,700 บาท เพราะราคาขายปลีกหน้าแผง ขายกันใบละ 60-70 บาท แล้ว ตอนนี้ก็ต้องจำใจขายไป ทั้งที่ต้นทุนตกใบละกว่า 70 บาท 

ผู้ค้าในย่านสี่แยกคอกวัวบางรายบอกว่า วันนี้วันเดียวขายทุนเป็นแสน บางรายเป็นทั้งผู้จำหน่ายและผู้เสี่ยงดวง ดังนั้น ถ้าขายไม่ออกก็ยังเก็บไว้เสี่ยงดวงได้ อย่างล็อตเตอรี่เล่มหนึ่ง 100 ฉบับ ถ้าตอนนี้แบกต้นทุนไว้ที่ 7,000 บาท ถ้าซื้อไว้เอง ถ้าโชคดีได้รางวัลเลขท้าย 2 ตัว ได้เงิน 2,000-3,000 บาท ก็ยังพอรับได้ แต่ถ้าไม่ถูกรางวัลก็รับผลขาดทุนไป ยิ่งเล่มที่ได้ตอนนี้ เป็นเลข "ไข่" หรือ มีเลข "ศูนย์" หน้า "ศูนย์" หลัง ยิ่งไม่มีโอกาสจะถูกรางวัล ก็ต้องยอมแบกรับภาระขาดทุนไป 

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการ คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้น มาจากสำนักงานสลากฯ ได้พยายามแก้ปัญหาการขายสลากแพง เพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นสำคัญ และหลายงวดที่ผ่านมา ก็ได้ใช้วิธีให้มารับสลากฯ ช้ากว่าเดิม ส่วนงวดวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ได้เลื่อนวันรับสลากทั้งระบบตัวแทนจำหน่ายและระบบจองล่วงหน้า ออกไปจากกำหนดการเดิม 2 วัน มีผลให้ระยะเวลาการขายสลากของผู้ค้าเหลือ 8 วัน จากเดิม 10 วัน ซึ่งยอมมีผลต่อผู้จำหน่าย รับสลากไปจัดชุดแล้วขายเกินราคาใบละ 80 บาท 

"เหตุผลที่ทำเช่นนี้ เพราะต้องการให้ผู้ค้าสลากประเมินปริมาณการขายตามความต้องการของผู้ซื้อจริงๆ และเพื่อป้องกันการจัดชุดขายแพงเกินราคา ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น จึงต้องการให้ผู้ค้าปรับตัว รู้จักสำรวจปริมาณสลากที่จะขายได้ และเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ซื้อของเกินราคาด้วย" นายธนวรรธน์ กล่าว